SoftBank เปิดเกมรุกลงทุน AI

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของ SoftBank บริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี สัญชาติญี่ปุ่น กำลัง ขยายสัดส่วนการถือหุ้นของ Nvidia และ TSMC


อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของ SoftBank Group Corp. บริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี สัญชาติญี่ปุ่น กำลัง ขยายสัดส่วนการถือหุ้นของ Nvidia Corp. และ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) สะท้อนความตั้งใจของ Masayoshi Son (มาซาโยชิ ซัน) ผู้ก่อตั้ง SoftBank ที่มีต่อเครื่องมือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่รองรับปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ตามเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแล ช่วงปลายเดือนมี.ค. 68 ที่ผ่านมา SoftBank มีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของ Nvidia ขึ้นอีกมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น TSMC อีก 330 ล้านดอลลาร์ และ Oracle Corp. อีก 170 ล้านดอลลาร์

ว่ากันว่า..ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา กองทุนวิชั่นฟันด์ (Vision Fund) ของบริษัท แปลงสินทรัพย์ทั้งในและนอกตลาดมาเป็นรายได้กว่า 2,000 ล้านดอลลาร์

หัวใจสำคัญในความมุ่งมั่นใน AI ของ SoftBank คือ บริษัทออกแบบชิป Arm Holdings Plc. ที่ “มาซาโยชิ ซัน” กำลังพยายามสร้างตลาดร่วมกับบรรดาผู้นำด้านการประดิษฐ์ชิป ในสหราชอาณาจักร เพื่อพัฒนาขีดความสามารถให้ทัดเทียมกับ Nvidia

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถจับกระแส AI ได้มากเท่ากับ Nvidia ที่ทำให้บริษัทมีมูลค่าเพิ่มสูงถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ TSMC ที่มีมูลค่าอยู่เกือบถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ 

ภายหลังการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติม ราคาหุ้น Nvidia ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 90% หลังลงแตะจุดต่ำสุดรอบปี เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่หุ้น TSMC มีราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% จาก 2 ปัจจัยดังกล่าว อาจช่วยหนุนผลประกอบการบริษัทได้

นัยสำคัญการเข้าซื้อครั้งนี้ช่วยชดเชยให้ SoftBank หลังจากต้องพลาดโอกาส ไม่เข้าซื้อหุ้น Nvidia ตอนที่ ChatGPT ผลักดันราคาหุ้นขึ้นอย่างรุนแรง นอกจากนี้ SoftBank เคยตัดสินใจขายสัดส่วนหุ้น 4.9% ของ Nvidia เมื่อต้นปี 2562

หากนำมาเทียบเคียงปัจจุบันแล้ว หุ้นตัวนี้จะมีมูลค่าถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามผลขาดทุนใน Vision Fund เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้ SoftBank ไม่สามารถเข้ามาลงทุนในภาค AI ตั้งแต่ต้นได้ 

ขณะนี้ “มาซาโยชิ ซัน” กำลังหาทางเข้ามามีส่วนร่วมหลัก ๆ ในการเผยแพร่ AI ผ่านการสร้างพันธมิตร อย่างการร่วมมือกับ OpenAI Oracle และกองทุน MGX เพื่อการลงทุน 5 แสนล้านดอลลาร์ ในศูนย์ข้อมูล Stargate และการผลักดันให้ TSMC และบริษัทอื่น ๆ ลงทุนในศูนย์ผลิต AI ในรัฐ Arizona ที่มีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

พร้อมกันนี้ SoftBank มีแผนจะซื้อบริษัทชิป Ampere Computing LLC ในสหรัฐฯ ด้วยเงิน 6.5 พันล้านดอลลาร์ และลงทุนอีก 3 หมื่นล้านดอลลาร์กับ OpenAI 

มีรายงานว่า “มาซาโยชิ ซัน” ยังไม่พอใจต่อการลงทุน โดยมองว่ายังมีศักยภาพอีกมาก สำหรับการลงทุนในสหรัฐฯ เพื่อผลักดันให้ SoftBank ขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลักล้านล้านดอลลาร์ได้

ล่าสุด “มาซาโยชิ ซัน” กำลังพยายามพัฒนาความสัมพันธ์ของตนกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ “โดนัลด์ ทรัมป์” เพื่อให้ SoftBank ประสบความสำเร็จในแผนการรวมบริษัท โดยไม่ถูกรัฐบาลเข้ามาขวาง จากความพยายามนี้ ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เนื่องจากอุตสาหกรรม AI และชิปคอมพิวเตอร์ กำลังมีผลกระทบต่อภูมิรัฐศาสตร์อย่างมีนัยสำคัญ…

Back to top button