
SET ไม่แตกตื่น
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง มาปิดที่ระดับ 1,236.61 จุด ลบไป 13.48 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.25 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าแม้ตลาดจะมีแรงเทขายออกมา แต่ก็ไม่ได้เสียทรงมากนัก
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง มาปิดที่ระดับ 1,236.61 จุด ลบไป 13.48 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.25 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าแม้ตลาดจะมีแรงเทขายออกมา แต่ก็ไม่ได้เสียทรงมากนัก แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง “แพทองธาร” พ้นนายกฯ ผิดจริยธรรมร้ายแรง คดีคลิปเสียงฮุนเซน แต่ข่าวนี้นักลงทุนคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าไปแล้วเลยไม่เห็นแรงเทขายหนัก หรือแรงกระเพื่อมที่หลายคนกลัว ตลาดจึงนิ่ง ๆ รอเวลาชัดเจนเจ้าค่ะ
อีกทั้งช่วงนี้นักลงทุนยังอยู่ในโหมด รอดูความคืบหน้าทางการเมือง ว่าเกมต่อไปจะเป็นอย่างไร? และ รอลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ทำให้ตลาดดูนิ่ง ๆ แต่ก็มีหุ้นรายตัวที่ยังเคลื่อนไหวคึกคักอยู่พอสมควร งานนี้เลยต้องใช้สูตร “เก็งรายตัว” กันไปก่อน โดยเฉพาะหุ้นที่มีปันผลกลางปี หรือหุ้นที่ยังมีสตอรี่หนุนอยู่ในมือ ใครสายเลือกของดี ก็ต้องหมั่นสแกนกระดานให้ไวเจ้าค่ะ
เช่นรายของ OR ที่ช่วงนี้ “ฟอร์มสวย” ระดับนางงามจักรวาล มีแรงซื้อเข้ามาเป็นระลอก ส่งผลให้ราคาหุ้นขยับขึ้นอย่างมั่นคง ล่าสุดปิดที่ 13.30 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.31% มูลค่าซื้อขาย 815 ล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าหุ้นตัวนี้กลับมาเฉิดฉาย เพราะค่าการตลาดน้ำมันเริ่มฟื้น ราคาน้ำมันดิบทรงตัวต่ำ แถมภาครัฐก็ยังไม่กดราคาขายปลีกน้ำมันเหมือนเมื่อก่อน เงินกองทุนน้ำมันก็เป็นบวกต่อเนื่อง แบบนี้กำไรกลุ่มปั๊มน้ำมันมีลุ้นฟื้นแรงในครึ่งปีหลัง จะไม่ให้เชียร์ยังไงไหวล่ะเจ้าคะ
เหมือนกับรายของ KKP ที่แม้ราคาหุ้นจะย่อเล็กน้อยมาปิดที่ระดับ 59.50 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 316 ล้านบาท “โมนิก้า” กลับมองว่านี่คือจังหวะพักตัวแบบไม่เสียทรง เพราะมีข่าวดีซ่อนอยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายปันผลระหว่างกาล 1.50 บาทต่อหุ้น (XD วันที่ 10 ก.ย. 68) หรือโครงการซื้อหุ้นคืน 16 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.89% ของทุนชำระแล้ว งานนี้เรียกได้ว่าหุ้นตัวนี้เริ่มน่าจับตาสำหรับนักลงทุนสายถือยาวแบบสุด ๆ ไปเลยเจ้าค่ะ
ตามด้วยรายของ PTTGC ราคาหุ้นเด้งมาปิดที่ระดับ 26.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 849 ล้านบาท เป็นแรงเก็งกำไรที่เข้ามาหนาแน่น เพราะได้รับปัจจัยบวกหลายกระแส ทั้สต๊อกลอสที่ลดลง, ภาวะ Oversupply ปิโตรเคมีเริ่มคลี่คลาย, แถมยังมีค่าใช้จ่ายคงที่ที่ลดลง เข้ามาเสริมอีกแรง “โมนิก้า” มองว่า โมเมนตัมแบบนี้ ที่ช่วยปลุกกระแสหุ้นวัฏจักรให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง คนที่ติดดอยอาจยังไม่หลุด แต่คนที่เล่นรอบนี่สิ…ยิ้มได้ทั้งวันเลยเจ้าค่ะ
ส่วนในรายของ CENTEL แม้ราคาจะอ่อนปิดที่ระดับ 28.75 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 5.74% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 198 ล้านบาท แต่ “โมนิก้า” มองว่าน่าสนใจหลังข่าวดี MGM Osaka กาสิโนถูกกฎหมายแห่งแรกในญี่ปุ่น เตรียมเปิดในโอซาก้าเพราะเซ็นทรัลพลาซามีโรงแรมในโอซาก้าถึง 14% แบบนี้นักท่องเที่ยวทะลักเมื่อไหร่ รายได้ก็บวกแน่นอน จังหวะนี้พักฐาน อาจเป็นโอกาสเข้าลงทุนเจ้าค่ะ
ปิดท้ายรายของหุ้นน้องใหม่ป้ายแดงอย่าง HANN ที่ยังมีกระแสเก็งกำไรต่อเนื่องเป็นระยะ หลังจากสร้างเซอร์ไพรส์ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเทรด แม้ว่าราคาหุ้นมาปิดที่ 1.48 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 2.63% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 43 ล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าอย่างไรก็ตามความปังของเธอไม่ใช่แค่เพราะเป็นหุ้นโรงพยาบาล แต่เพราะมีฐานลูกค้าหลักในย่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และข้ามฝั่งไปถึง สปป.ลาว แบบนี้เรียกได้ว่าจับตลาดได้ทั้งสองฝั่งน้ำโขง แถมกระแสเปิดประเทศก็ยังเป็นบวกอีกต่อเจ้าค่ะ
โมนิก้าและทีมงาน