
MOONG เพิ่มช่องทางขาย
ถ้าพูดถึง MOONG ซึ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตั้งแต่ปี 2552 หรือเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่อยู่นอกสายตาของนักลงทุนก็ว่าได้...
ถ้าพูดถึงบริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MOONG ซึ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตั้งแต่ปี 2552 หรือเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่อยู่นอกสายตาของนักลงทุนก็ว่าได้…สะท้อนได้จากมูลค่าการซื้อขายในแต่ละวันที่เหี่ยวเฉาเฉลี่ยแค่หลักหมื่นหลักแสนบาทเท่านั้น
MOONG เป็นหุ้นในหมวดสินค้าอุปโภคและบริโภค เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในครัวเรือน กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากคลุกคลีตีโมงอยู่ในธุรกิจนี้มากว่า 40 ปีแล้ว
แบรนด์ที่หลายคนคุ้นเคย แต่อาจไม่รู้ว่าอยู่ภายใต้การดูแลของ MOONG อาทิเช่น V care สำลีก้อน, MUMU ผ้าอ้อมผู้ใหญ่, FOGGY (ฟ๊อกกี้) ผลิตภัณฑ์กระบอกฉีดน้ำ เป็นต้น
โอเค…แม้ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรี แต่ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่จนเกินไป ยังเห็นกำไรต่อเนื่องทุกปี โดยปี 2564 มีรายได้รวม 813.59 ล้านบาท กำไรสุทธิ 82.31 ล้านบาท ส่วนปี 2565 มีรายได้รวม 831.00 ล้านบาท กำไรสุทธิ 35.70 ล้านบาท ปี 2566 มีรายได้รวม 810.76 ล้านบาท กำไรสุทธิ 40.49 ล้านบาท และปี 2567 มีรายได้รวม 824.75 ล้านบาท กำไรสุทธิ 35.02 ล้านบาท
ขณะที่ไตรมาส 2/2568 มีรายได้รวม 220.00 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7.90 ล้านบาท หนุนให้งวด 6 เดือนแรกปี 2568 มีรายได้รวม 442.35 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22.69 ล้านบาท
แถมเป็นบริษัทที่มีหนี้ไม่เยอะด้วยนะ ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 มีหนี้สินรวมแค่ 302.96 ล้านบาท แต่มีสินทรัพย์รวมกว่า 1,305.80 ล้านบาท โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดในกระเป๋ากว่า 381.44 ล้านบาท และมีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรรสูงกว่า 563.28 ล้านบาทเชียวหนา
จัดเป็นหุ้นตัวเล็ก…แต่งบการเงินแอบแซ่บอยู่หนา..!!
ที่น่าสนใจ ช่วง 2 ปีมานี้ หุ้น MOONG ปันผลฉ่ำ ๆ จากเมื่อก่อนปันผลปีละครั้ง ดิวิเดนด์ยีลด์เฉลี่ย 3-4% ก็หันมาจ่ายปีละ 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลไปในอัตรา 0.07 บาท เสียดายที่ขึ้นเครื่องหมาย XD ไปแล้วเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็ทำให้ผู้ถือหุ้นแฮปปี้เอนดิ้งกันถ้วนหน้า โดยปัจจุบันดิวิเดนด์ยีลด์สูงปรี๊ดดดแตะที่ 9.87%
ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด เตรียมทุ่มงบก้อนโต 95 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นบริษัท เจ เอส ดับเบิ้ลยู แอสเสท จำกัด (JSW) ในสัดส่วน 26% คาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ต.ค. 2568 นี้
ก็ถือเป็นดีลที่น่าสนใจนะ…เพราะถ้าไปส่องแบ็กกราวด์ของ JSW เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสกินแคร์เกาหลีรายใหญ่ของประเทศไทย อาทิเช่น แบรนด์ ANUA, LAKA, RoundLab, Dinto, Dear Klairs, Pestlo และแบรนด์ชื่อดังอื่น ๆ จากประเทศเกาหลี ก็น่าจะช่วยหนุนการเติบโตของ MOONG ได้ไม่มากก็น้อย…
อันดับแรก เป็นการแตกไลน์ไปสู่ผลิตภัณฑ์สกินแคร์เกาหลี ซึ่งยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง
ถัดมาช่วยเพิ่มช่องทางขาย สามารถนำสินค้าที่มีอยู่ในพอร์ตไปขายผ่านช่องทางของ JSW ได้อีกทางหนึ่ง
ไม่นับรวมหาก JSW เติบโตดี…MOONG ในฐานะผู้ถือหุ้นสัดส่วน 26% ก็จะได้ผลดีไปด้วย…
ซึ่งถ้าย้อนดูผลประกอบการของ JSW ในช่วง 3 ปีมานี้ มีพัฒนาการที่น่าสนใจ อย่างปี 2565 มีรายได้รวม 68.88 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3.83 ล้านบาท ถัดมาปี 2566 มีรายได้รวมแตะที่ 102.04 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 5.68 ล้านบาท ขณะที่ปี 2567 รายได้รวมพุ่งไป 300.54 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิแตะที่ 37.29 ล้านบาท
จะเห็นว่าในปี 2567 กำไรสุทธิของ JSW สูงกว่ากำไรของ MOONG ซึ่งอยู่ที่ 35.02 ล้านบาทเสียอีก…
ไม่ธรรมดานะเนี่ย…
ส่วนจะทำให้หุ้น MOONG เปล่งรัศมีเตะตานักลงทุนได้หรือเปล่า..??
อันนี้ก็ไม่รู้สินะ…
…อิ อิ อิ…