สังคมข่าวหุ้น

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (2 ก.ย.) ปิดที่ 1,248.78 จุด บวก 4.30 จุด หรือ 0.35% มีมูลค่าการซื้อขาย 34,424.58 ล้านบาท


ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (2 ก.ย.) ปิดที่ 1,248.78 จุด บวก 4.30 จุด หรือ 0.35% มีมูลค่าการซื้อขาย 34,424.58 ล้านบาท ภาวะการซื้อขายภาคบ่ายดัชนีแกว่งตัวในแดนบวกออกด้านข้าง โดยตลาดยังกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล จึงทำให้มูลค่าการซื้อขายไม่มาก โดยมีแรงซื้อในหุ้น BH, PTTGC, TOP และ PTTEP อย่างไรก็ตาม มีแรงขายในหุ้นบิ๊กแคปอย่างหุ้น DELTA ที่ราคาอ่อนตัวลงเล็กน้อย

บล.พาย ประเมินดัชนีหุ้นไทยเดือน ก.ย. 2568 มีแนวโน้มลดความร้อนแรง หลังปัจจัยหนุนจากการเจรจาการค้าและความคาดหวังการลดดอกเบี้ยเฟดถูกสะท้อนไปมากแล้ว ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจโลกยังไม่แน่นอน โดยเฉพาะการประชุมเฟด 17 ก.ย. จะเป็นตัวชี้ชะตานโยบายการเงิน ส่วนเศรษฐกิจไทยยังเผชิญแรงกดดันจากการบริโภคที่อ่อนตัว หนี้ครัวเรือนสูง และการส่งออกเริ่มชะลอลง แม้การเมืองมีโอกาสได้รัฐบาลบริหารต่อ แต่คงเป็นแรงหนุนระยะสั้น สำหรับกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนควรเน้นหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะและไม่อิงกับเศรษฐกิจมากนัก ได้แก่ BDMS, ADVANC, MTC, SAWAD, AMATA, WHA ที่ได้อานิสงส์ดอกเบี้ยขาลงและการลงทุนต่างชาติ และลดสัดส่วนหุ้นไทย-ต่างประเทศ ถือเงินสดเพิ่ม ขณะที่ทองคำควรถือต่อเพื่อกระจายความเสี่ยง แต่ไม่ควรเพิ่มพอร์ตในระดับราคาปัจจุบัน

ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยคึกคัก เมื่อบริษัทยักษ์ใหญ่พาเหรด “ซื้อหุ้นคืน” กันถ้วนหน้า ทว่าราคาหุ้นกลับเคลื่อนไหวในแดนลบ สะท้อนความเชื่อมั่นที่ยังสั่นไหว โดย ACE กดซื้อหนัก 47.9 ล้านหุ้น มูลค่า 61.98 ล้านบาท ทำให้ยอดสะสมพุ่งแตะ 257.9 ล้านหุ้น รวมกว่า 332 ล้านบาท, CPALL ทุ่มไม่ยั้ง 8.9 ล้านหุ้น มูลค่าเฉียด 401 ล้านบาท สะสมแล้วทะลุ 48 ล้านหุ้น รวมกว่า 2,250 ล้านบาท, HMPRO เติมพอร์ตอีก 12 ล้านหุ้น มูลค่า 83 ล้านบาท ดันยอดรวมแตะ 177.6 ล้านหุ้น รวมกว่า 1,335 ล้านบาท, PRM เก็บเพิ่ม 20.8 ล้านหุ้น มูลค่า 129 ล้านบาท ยอดสะสมขยับเป็น 105 ล้านหุ้น รวมกว่า 658 ล้านบาท, PTT หนักสุดในกลุ่ม ซื้อคืนถึง 32 ล้านหุ้น มูลค่า 1,030 ล้านบาท สะสมรวมกว่า 231 ล้านหุ้น รวม 7,317 ล้านบาท, SAPPE เก็บเพิ่ม 1.1 ล้านหุ้น มูลค่า 37 ล้านบาท ยอดสะสม 2.25 ล้านหุ้น รวมกว่า 73 ล้านบาท, SPALI ซื้อคืน 5 ล้านหุ้น มูลค่า 78 ล้านบาท ดันยอดรวมกว่า 61.9 ล้านหุ้น รวม 880 ล้านบาท, TRP เสริมอีก 6.5 ล้านหุ้น มูลค่า 37 ล้านบาท ทำให้ยอดสะสมขยับเป็น 20.2 ล้านหุ้น รวมกว่า 119 ล้านบาท ท่ามกลางแรงซื้อคืนมหาศาล คำถามที่นักลงทุนยังต้องติดตามคือ แรงกระตุ้นนี้จะเพียงพอพยุงราคาหุ้นให้ฟื้นหรือไม่ เจ๊ก็ลุ้นไม่แพ้กันนะเจ้าคะ

วายแอลจี (YLG) ชี้ ทองคำช่วงที่เหลือของปีนี้ยังเป็นเทรนด์ขาขึ้น ล่าสุดขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 3,508.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขานรับ “ทรัมป์” เรียกความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างอินเดีย-สหรัฐฯ ว่าเป็น “หายนะด้านเดียวโดยสิ้นเชิง” พร้อมปัจจัยบวกจากกระแสการปรับลดดอกเบี้ยเฟด คงเป้าหมายทองคำปีนี้ที่โซน 3,500-3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ทดสอบเป้าหมายแรกไปแล้วถึงสองครั้ง แต่หากยืนได้จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 3,600 และ 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ด้านทองคำในประเทศ มีลุ้นเคลื่อนไหวในกรอบ 52,500-54,100 บาทต่อบาททองคำ

ดวงดี

Back to top button