
CPAXT รุกคืบมาเลย์
หลังจากกลุ่มซีพีปรับโครงสร้างโยกย้ายกิจการ Lotus’s มาอยู่ใต้ปีก MAKRO ในตอนนั้น ซึ่งต่อมาแปลงร่างเป็น CPAXT ในปัจจุบัน...ก็ทำให้ CPAXT ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง
หลังจากกลุ่มซีพีปรับโครงสร้างโยกย้ายกิจการ Lotus’s มาอยู่ใต้ปีกบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ในตอนนั้น ซึ่งต่อมาแปลงร่างเป็นบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ในปัจจุบัน…ก็ทำให้ CPAXT ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งของประเทศไทยไปโดยปริยาย..!!
สะท้อนได้จากผลประกอบการที่เติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยปี 2566 มีรายได้รวม 489,949.17 ล้านบาท กำไรสุทธิ 8,644.85 ล้านบาท ถัดมาปี 2567 มีรายได้รวมเพิ่มเป็น 512,041.89 ล้านบาท กำไรสุทธิทะลุ 10,569.08 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 259,030.63 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,929.46 ล้านบาท
คงรู้กันอยู่แล้วเนอะว่า CPAXT มี 2 แบรนด์หลัก โดยธุรกิจค้าส่งจะดำเนินการภายใต้แบรนด์ “แม็คโคร” ส่วนธุรกิจค้าปลีกดำเนินการภายใต้แบรนด์ “โลตัส” ซึ่งมีทั้งในประเทศไทยและมาเลเซีย…
โอเค…แม้ยังเห็นการเติบโตของ CPAXT แต่ถ้าสังเกตจะเป็นการเติบโตแบบกะปริบกะปรอย นั่นอาจเป็นเพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจโตช้า เปราะบาง และมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคหดหาย…
กลายเป็นโจทย์ทางธุรกิจให้ CPAXT ต้องแสวงหาตลาดใหม่ ๆ เพิ่มเติม…ซึ่งประเทศมาเลเซียเป็นหนึ่งในเป้าหมาย
เลยเป็นที่มาของการทุ่มงบก้อนโต 8,086.97 ล้านบาท เพื่อรวบหัวรวบหางกินตรงกลางตลอดตัว Renewed Hope Pte. Ltd. (Renewed Hope) บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ แต่เป็นเจ้าของแบรนด์ฟู้ดเซอร์วิสในมาเลเซีย ในชื่อแบรนด์ “Lucky Frozen” ซึ่งประกอบธุรกิจนำเข้า ผลิต และจำหน่ายอาหารให้กับลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ห้างค้าปลีกและค้าส่ง ในประเทศมาเลเซีย
ที่จริงประเทศมาเลเซียไม่ได้เป็นตลาดใหม่ถอดด้ามสำหรับ CPAXT หรอก เนื่องจากมีธุรกิจค้าปลีกอย่างห้างโลตัสในมาเลเซียอยู่แล้ว 70 สาขา แต่การรุกคืบตลาดมาเลเซีย ด้วยการเข้าซื้อ Renewed Hope ครั้งนี้ มีความน่าสนใจ…
อันดับแรก จะเห็นการ Synergy กันระหว่างโลตัสมาเลเซียกับ Lucky Frozen ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของกันและกัน
ถัดมา ด้วยประเทศมาเลเซียมีจำนวนประชากรกว่า 34 ล้านคน แม้จะน้อยกว่าประชากรไทยที่มีราว 65 ล้านคน แต่อย่าลืมว่ามาเลเซียมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงกว่าไทยอย่างชัดเจน โดยจีดีพีโตเฉลี่ยปีละ 5% ในขณะที่ประเทศไทยจีดีพีโตแค่ 2-3% เท่านั้น
นั่นหมายถึงโอกาสที่ Renewed Hope ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก…
ตอกย้ำด้วยผลประกอบการของ Renewed Hope ช่วงปี 2563-2567 ที่ผ่านมา ที่มีการเติบโตเป็นเลข 2 หลัก โดยในปี 2566 มียอดขาย 988 ล้านริงกิตมาเลเซีย หรือเทียบเท่าจำนวนเงินประมาณ 7,500 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ 7.2% และในปี 2567 มียอดขาย 1,100 ล้านริงกิตมาเลเซีย หรือเทียบเท่าจำนวนเงินประมาณ 8,100 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ 5.4%
แน่นอนว่าหาก Renewed Hope เติบโตดี…CPAXT ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ…
ซึ่งไม่แน่ในอนาคตประเทศมาเลเซียอาจจะเป็นบ้านหลังที่สองของ CPAXT ก็ได้นะ…ใครจะไปรู้
ขณะที่มุมมองของนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Renewed Hope จะช่วยสร้างกำไรได้ราว 200 ล้านบาทต่อปี หรือราว 2% ของกำไร CPAXT
อาจดูไม่เยอะ…แต่ก็ไม่น้อยนะจิบอกให้
ส่วนที่กังวลกันว่า การคืนทุน หรือ Break-Even อาจใช้เวลานานหลายปีหรือเปล่า..??
ในประเด็นนี้ CPAXT คงไม่ Worry น่าจะยึดคติที่ว่า “ช้าแต่ชัวร์…ดีกว่าเร็วแล้วพลาด” ละมั้ง..!?
…อิ อิ อิ…