
พาราสาวะถี
จะมองไปในมุมไหนบวกหรือลบ หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ ทักษิณ ชินวัตร ต้องรับการบังคับโทษจำคุก 1 ปี เนื่องจากการเข้าไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จะมองไปในมุมไหนบวกหรือลบ หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ ทักษิณ ชินวัตร ต้องรับการบังคับโทษจำคุก 1 ปี เนื่องจากการเข้าไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากเป็นมุม ฝ่ายกองแช่ง พวกขาประจำถือว่าได้เฮ และสะใจที่ในที่สุดก็สามารถทำให้คนที่พวกตัวเองจงเกลียดจงชัง ถูกขังอยู่ในซังเตได้สำเร็จ ส่วนฝ่ายกองเชียร์เห็นการดำเนินไปของสถานการณ์ทางการเมืองแล้วก็ต้องยอมรับสภาพนี่เป็นความจริงที่ต้องเผชิญ
อาจมีกลุ่มที่ปลอบใจตัวเองนายใหญ่เลือกที่จะกลับมารับโทษ แทนที่จะหนีเหมือนเดิมหลังจากเหินฟ้าไปดูไบแล้ว คงจะเป็นแนวทาง “จบที่ตัวเราเบาที่สุด” ถอดรหัสได้จากสารที่นายใหญ่ให้ทีมงานสื่อผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thaksin Shinawatra เนื้อหาใจความบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง เริ่มต้นด้วย ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกแก่ตนคงเหลือเวลา 1 ปี นับเป็นพระมหากรุณาที่คุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ตนขอน้อมรับและพร้อมเข้าสู่กระบวนการตามคำพิพากษาในวันนี้
การยอมก้มหน้าเข้ารับโทษเป็นระยะเวลา 1 ปี ไม่ใช่การปลง หากแต่เป็นเหมือนการแลกกับความหวังข้างหน้า หลังจากพ้นโทษมาแล้ว ซึ่งจะรับกับช่วงเลือกตั้งครั้งใหม่พอดี อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้น การสืบสานงานการเมืองในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น มีการวางหมากกันไว้หมดแล้ว ต้องไม่ลืมว่า แม้ดีลลังกาวี หรือดีลพิเศษของรัฐบาลพลิกขั้วจะล้มไปแล้ว แต่ภาระที่บรรดาแกนนำทั้งหลายไปรับมาแบกไว้บนบ่านั้นยังไม่ได้ถูกโยนทิ้ง ยังต้องทำภารกิจที่เป็นเป้าหมายร่วมกันต่อไป
จะเรียกว่าเป็นจังหวะแยกกันเดิน เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาอาจจะเป็นเช่นนั้น ทางการเมืองเป็นเรื่องธรรมดาในการช่วงชิงความได้เปรียบ เดินลงสนามแข็งขันแล้วไม่มีใครยอมใคร แต่หลังจากเห็นคะแนนเสียงกันแล้ว ตรงนั้น จะเป็นจุดชี้วัดใครสังฆกรรมกับใครได้ หากโจทย์ยังไม่เปลี่ยนแปลง หรือฝ่ายสุดโต่งยังคงเดินตามแนวทางที่ตั้งไว้อย่างไม่ลดละ โฉมหน้าของขบวนแห่งการกุมอำนาจบริหารย่อมหนีไม่พ้นพวกหน้าเดิม เพิ่มเติมคือ เมื่อถึงเวลานั้นแรงเสียดทานจากการถูกบ่อนเซาะเหมือนช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะไม่เกิดขึ้นอีก
หากพิจารณาจากข้อความที่นายใหญ่ให้ทีมงานโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กดังว่าแล้ว จะเห็นได้ว่าการกลับมารับโทษครั้งนี้เป็นเส้นทางที่เลือกแล้ว เพื่อให้ทุกอย่างจบจะได้ไม่มีใครมาปลุกเร้า หรือสร้างกระแสเพื่อทำลายพรรคเพื่อไทยในภายภาคหน้า หากได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก เหมือนที่เจ้าตัวระบุ “แม้ว่าทุกคดีจะเกิดขึ้นหลังการรัฐประหารรัฐบาลของผมเมื่อปี 2549 แต่วันนี้ผมขอมองไปข้างหน้า ให้ทุกอย่างที่ผ่านมามีข้อยุติ ทั้งการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และความขัดแย้งใดๆ อันเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับตัวผม”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองวรรคสุดท้าย ถือเป็นการชี้ถึงทิศทางการเมืองข้างหน้าว่าพรรคนายใหญ่ยังสู้ต่อ เพราะการกล่าวขอบคุณนักการเมือง สมาชิกพรรคเพื่อไทย และเพื่อนมิตรทั้งหลายที่เคียงข้างกัน ทั้งในยามสุขและยามยากนั้น ทักษิณได้ย้ำว่า ตนตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ เพื่อส่งกำลังใจให้ทุกคนเดินไปข้างหน้า ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ด้วยอุดมการณ์และจิตวิญญาณที่มีร่วมกันมา จนกว่าจะถึงวันที่ได้เดินร่วมทางกันอีกครั้ง
ตามมาด้วยการตอกย้ำความเป็นตัวตน และไม่ยอมแพ้ต่อการต่อสู้ทางการเมืองด้วยประโยคที่ว่า “จากวันนี้แม้ผมจะไร้อิสรภาพ แต่ยังมีเสรีภาพทางความคิด” เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ตนจะรักษาความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อใช้เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ รับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ แผ่นดินไทย และประชาชนคนไทย ไม่ว่าจะในสถานะใดนับจากนี้ ใครที่คิดว่านายใหญ่ถอดใจและน่าจะวางมือแล้ว คงต้องคิดใหม่ คนที่เคยสู้สุดใจมาเกือบ 20 ปี จะยอมหมอบราบคาบแก้วไปเฉย ๆ คงไม่ใช่แน่นอน
ให้รอดูในช่วงระยะเวลา 1 ปีนับจากนี้ ความเคลื่อนไหวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจะคึกคักเป็นพิเศษ เชื่อได้เลยว่าจะไม่มีเพียงแค่คนในครอบครัว บริวารใกล้ชิด และคนของพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่จะเข้าเยี่ยมทักษิณ บรรดาคนการเมืองต่างพรรคก็จะจองคิวเข้าให้กำลังใจกันไม่ขาดสาย ทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยตัวก็ตาม ภาพเหล่านี้มันจะเป็นการยืนยันถึงทิศทางการเมืองว่าด้วยการเลือกตั้งครั้งต่อไป แม้ ณ วันนี้จะเห็นภาพ 3 ก๊ก แดง น้ำเงิน ส้ม ชัดเจน แต่พอใกล้หย่อนบัตรมันจะถูกบีบให้เหลือแค่ 2 ขั้วเท่านั้น ส่วนฝ่ายที่เชื่อว่า ทักษิณสิ้นมนต์ขลังไปแล้ว ก็ต้องรอพิสูจน์กัน
การวางตัวรัฐมนตรีของ อนุทิน ชาญวีรกูล ในนามรัฐบาล 4 เดือน เป็นภาพที่ชี้ให้เห็น ความมีอยู่จริงของอำนาจจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม ด้วยการหักดิบการช่วงชิงเก้าอี้ของฝ่ายการเมืองในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระหว่างคนบ้านในป่ากับผู้กองมันคือแป้ง แม้แต่พรรคสีน้ำเงินที่ตัดสินใจขอเก้าอี้นี้ไปอยู่ในโควตาของตัวเอง จากเดิมที่จะดันอดีตนายทหารที่ใกล้ชิดมาทำหน้าที่ สุดท้ายก็ต้องถอยมอบให้ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นโควตาพิเศษไม่เกี่ยวกับรวมไทยสร้างชาติ บิ๊กเล็กกลายเป็นตาอยู่ ไปเสียอย่างนั้น
พอเข้าใจได้ภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้งไทย-เขมร หากต้องการความต่อเนื่องก็ต้องให้คนเดิมมาทำหน้าที่ งานใหญ่ที่บิ๊กเล็กต้องปฏิบัติหน้าที่ไปก่อนในนามรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือ การลงนามข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือจีบีซี ที่เกาะกง ของกัมพูชา ในวันนี้ (10 กันยายน) การตัดจบแบบนี้ของเสี่ยหนู เพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนม้ากลางศึก รู้กันดีว่ารัฐบาลมีเวลาน้อย ตั้งคนมาแล้วควรทำงานได้ทันที และงานด้านความมั่นคงนาทีนี้ถือว่ามีความสำคัญ ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ มองได้ว่า แก้ปัญหาทางการเมืองแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น และสร้างการยอมรับสำหรับโควตาคนนอกได้ดีระดับหนึ่ง
อรชุน