เสียงเตือนจากเฟดบนความผันผวน.!

หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 11 ต่อ 1 เสียง อนุมัติการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25%


หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 11 ต่อ 1 เสียง อนุมัติการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% โดย “สตีเฟน มิแรน” สมาชิกใหม่คณะผู้ว่าการเฟด กลับโหวตสวนมติที่ประชุม FOMC ด้วยการลงมติให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%

ส่วนการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยปีนี้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% พร้อมส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ช่วงปี 2569 และลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ช่วงปี 2570

ดูเหมือนบรรดานักลงทุน อาจต้องเผชิญกับความผันผวนช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลับมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งและเปิดรับการผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น แต่กลับลดทอนสัญญาณด้วยคำเตือนเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่ยังเป็นปัญหา ทำให้เกิดความกังขาเกี่ยวกับความเร็วในการปรับนโยบายในอนาคต

นักลงทุนบางส่วนเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ จนอาจลดความเชื่อมั่นในแง่บวกที่ว่าหุ้นและพันธบัตร จะได้รับแรงหนุนอย่างมากจากนโยบายที่ผ่อนคลายลง อีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มความไม่แน่นอนคือมุมมองที่หลากหลายภายในเฟดเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

โดย “แลร์รี ฮาเธอเวย์” นักกลยุทธ์การลงทุนทั่วโลกจากสถาบันแฟรงคลิน เทมเปิลตัน ระบุว่า เรามีมุมมองที่ค่อนข้างระมัดระวังแต่ไม่จำเป็นถึงขนาดเชิงตั้งรับอย่างเต็มที่มาระยะหนึ่งแล้ว หลายคนในตลาดการเงินน่าจะผิดหวังเล็กน้อยกับการขาดความชัดเจนและทิศทางจากเฟด โดยไม่ได้เห็นด้วยกับความคาดหวังทั้งหลายของตลาด ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง โดยการเน้นย้ำผ่านการประชุมแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจ

ขณะที่ “เจอโรม พาวเวลล์” ประธานเฟด เน้นย้ำถึง “สถานการณ์ที่ท้าทาย” สำหรับบรรดาผู้กำหนดนโยบาย โดยระบุว่าความเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และความเสี่ยงต่อการจ้างงานมีแนวโน้มปรับลดลง

จากความเห็นดังกล่าว ทำให้ความเชื่อมั่นเชิงบวกของตลาดซบเซาลง แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมาก หลังข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่าอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมาที่ 4.3% ช่วงเดือนสิงหาคม และการจ้างงานเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก การปรับลดตัวเลขการจ้างงานเกณฑ์อ้างอิงสำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดถึงมีนาคมลงอย่างมาก เมื่อไม่นานมานี้ตอกย้ำมุมมองที่ว่าตลาดแรงงานกำลังสูญเสียแรงกระตุ้น และเน้นย้ำถึงความเป็นไปได้ ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกหลายครั้งนับจากนี้ไป..

“แดน ซิลุก” หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้ระยะสั้นและสภาพคล่องทั่วโลกและผู้จัดการกองทุน Janus Henderson Investors ระบุว่าตลาดการเงินทั้งหลายอาจยินดีกับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่ข้อความยังมีความละเอียดอ่อนและยังไม่ถึงจุดเปลี่ยนแปลง..!!

จากการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% และการพิจารณาเรื่องขนาดและเวลาของการปรับช่วงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มเติมนั้น เฟดใช้ความระมัดระวังในการประเมินข้อมูลเศรษฐกิจ รวมทั้งแนว โน้มของพัฒนาการทางเศรษฐกิจและความสมดุลของความเสี่ยงและคงปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) พร้อมความมุ่งมั่นสนับสนุนการจ้างงานที่ขยายตัวเต็มศักยภาพ และทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายระดับ 2%

Back to top button