
หมดโปรก็ขายทิ้ง
สิ่งที่เดี๊ยนประหลาดใจมากสุดตั้งแต่เปิดสัปดาห์ใหม่ก็คือ แรงขายทำไมพรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมาก ทั้งที่นักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
สิ่งที่เดี๊ยนประหลาดใจมากสุดตั้งแต่เปิดสัปดาห์ใหม่ก็คือ แรงขายทำไมพรั่งพรูออกมาเป็นจำนวนมาก ทั้งที่นักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และยังคาดการณ์ว่า ดัชนีมีสิทธิ์ขึ้นไปทดสอบ 1,350-1,400 จุด ได้ภายในสิ้นปีนี้ หรือต้นปีหน้า หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความคึกคักขึ้นมาอีกครั้งเจ้าค่ะ
ที่สำคัญคือ ยังมีการเน้นย้ำว่า หากรัฐบาล “เสี่ยหนู” สามารถผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น (Quick Wins) ออกมาได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจสะพัดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ภาพที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้น ณ เวลานี้กลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่คิด ผนวกกับนักลงทุนต่างชาติกลับมาสวมบทผู้ขายอีกครั้งแบบนี้..หมดโปรแล้วใช่ไหมเอ่ย!
ประกอบกับช่วงนี้มีการหยิบตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายอย่างอ่อนแอ่ขึ้นมาพูดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นส่งออกลดลง และการเบิกจ่ายภาครัฐก็ลดลง แถมการลงทุนภาคเอกชนก็ลดลง หรือแม้กระทั่งการบริโภคก็ยังลดลง ล้วนเป็นตัวเลขที่มีการหยิบยกขึ้นมาเม้าท์กันอีกครั้ง ซึ่งกลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้ดัชนีแกว่งตัวหนักขึ้น แม้จะประคองตัวปิดที่ 1,275.03 จุด บวกไป 0.86 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.55 หมื่นล้านบาท แต่ข่าวลบก็ยังรบกวนแบบนี้..เหนื่อยแน่พะยะค่ะ
นอกจากนี้อย่าลืมว่า การประคองตัวของดัชนีในครั้งนี้ ล้วนเป็นผลมาจากหุ้น DELTA ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 168 บาท บวกไป 9.50 บาท หรือขึ้นไป 5.99% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.58 พันล้นบาท ซึ่งมีผลต่อดัชนีมากถึง 9.50 จุด และเรื่องนี้ก็เป็นที่รับรู้กันมานานว่า หุ้นตัวนี้ไม่ใช่ตัวสะท้อนภาพรวมเศรษกิจไทย เพราะเป็นแค่หุ้นไว้ทำดัชนีขึ้นหรือลงเท่านั้น แถมคนที่เข้ามาเล่นก็เป็นพวกใจถึง อีฉันเลยเดาทางไม่ถูกจริง ๆ นะคะ
เม้าท์ถึงเรื่องเดาทางขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงพ่อพานทองแท้ PTT สักนิดหนึ่ง เพราะหลังจากขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อรับปันผลไปแล้ววานนี้ ก็ไม่รู้ว่า หุ้นจะขึ้นต่อไหม? ซึ่งเป็นผลมาจากวงรอบที่ผ่านมาก็ขยับขึ้นลงบริเวณนี้เป็นเวลานาน แถมในช่วงที่ผ่านก็โดนผลกระทบทางการเมืองกดดันในทางอ้อม อีฉันถึงอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 32.25 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 3.01% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.84 พันล้านบาทน่าสนใจอะป่าว?
คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น PLANB ที่โค้งตัวลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทั้งที่ผลการดำเนินงานในภาพรวมยังพอไปได้ ผนวกกับเที่ยวก่อนก็เด้งกลับตรงบริเวณ 4 บาท “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 4.32 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 1.37% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 131 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่น่าตามไปดูอย่างใกล้ แถมเมื่อพิจารณาจากธุรกิจสื่อนอกบ้านที่น่าจะเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็ทำให้หุ้นตัวนี้น่าสนใจขึ้นไปอีก..ยกเว้นอีฉันมองผิด ก็ตัวใครตัวมันนะคะ
ประเด็นมองผิดดังกล่าวทำให้อีฉันต้องเอ่ยถึงหุ้น HMPRO ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเดิมทีคิดว่า ราคาหุ้นจะแกว่งตัวขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะกำลังซื้อของลูกค้าเริ่มเพิ่มขึ้น แต่ทันทีที่ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศไม่เป็นเหมือนที่คาดไว้ อีฉันก็เห็นหุ้นตัวนี้อ่อนตัวลงมาอีกครั้ง และเริ่มสงสัยว่า แนวรับเดิมตรงเส้น 75 วันที่บริเวณ 7 บาทจะเอาอยู่ไหม? หลังหุ้นทรุดตัวลงมายืนปิดที่ระดับ 7.25 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 2.68% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 203 ล้านบาทนะซี
เช่นเดียวกับหุ้น SIRI ที่อยู่ในทิศทางขาลงแบบไม่มีวอลุ่มมาพักใหญ่ ๆ ก็เป็นช็อตที่ทำให้อีฉันกังวลมากเช่นกัน เพราะตามตำราเขาเรียกอาการแบบนี้ว่า เริ่มแยกวง! ซึ่งเป็นผลมาจากไม่มีข่าวดีเข้ามาซัพพอร์ต และมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะลงมาทดสอบแนวรับสุดท้ายที่บริเวณ 1.42 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินความเสี่ยงวกันเอาเองว่า การยืนปิดที่ระดับ 1.44 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 1.37% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80 ล้านบาทยังน่าสนใจไหมจ๊ะ
โมนิก้าและทีมงาน