
GPSC โจทย์ใหม่ ‘พลังงานดิจิทัล’
มีนัยน่าติดตามอย่างยิ่ง.!กรณีบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เรือธงธุรกิจนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้าเครือปตท.
มีนัยน่าติดตามอย่างยิ่ง.!กรณีบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เรือธงธุรกิจนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้าเครือปตท.ลงนามบันทึกความเข้าใจกับบริษัท โกลเดนคอนคอร์ด โฮลดิ้งส์ จำกัด (GCL) องค์กรชั้นนำด้านเทคโนโลยีสีเขียวคาร์บอนต่ำจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ดำเนินธุรกิจพัฒนาด้านโซลูชันพลังงานชั้นสูงให้ Data Center ขนาดใหญ่
นัยสำคัญคือร่วมพัฒนาโครงการศูนย์ข้อมูล ร่วมกับพลังงานคาร์บอนต่ำอัจฉริยะ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานไทยและเป็นรากฐานที่มั่นคง สำหรับการขยายความร่วมมือหลากหลายมิติในอนาคต.!
ถือเป็นกลยุทธ์และจุดแข็ง GPSC ที่ผลิตและส่งไฟฟ้าได้อย่างมีเสถียรภาพ โดยใช้ประโยชน์จากโรงไฟฟ้าปัจจุบันที่สามารถส่งไฟฟ้าได้ต่อเนื่อง ประกอบกับความเชี่ยวชาญของ GCL ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานสะอาดรุ่นใหม่ โดยเฉพาะด้านพลังงานหมุนเวียน ร่วมกันนำเทคโนโลยี AI มาเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่
รวมทั้งศึกษาพัฒนาห่วงโซ่ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์เทคโนโลยีใหม่ ประเภทเพอรอฟสไกต์ (Perovskite) ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงระดับโลก รองรับการยกระดับระบบบริหารจัดการและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าอัจฉริยะ แพลตฟอร์มการซื้อขายไฟฟ้าและคาร์บอนเครดิต เทคโนโลยีโรงไฟฟ้าเสมือน (Virtual Power Plant)
รองรับการเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัลด้านพลังงาน ผ่าน Real World Asset (RWA) เพื่อให้สอดรับกับทิศทางของนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต
ถือเป็นโอกาสและทิศทางการเปลี่ยนแปลงของการใช้เทคโนโลยีด้านพลังงานทั่วโลก ด้านการพัฒนา Data Center ร่วมกับบริหารจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ เน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม AI มาใช้รองรับการแข่งขัน ที่ต้องเผชิญกับปัจจัยการความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม
ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับ GPSC นั่นคือขีดความสามารถการแข่งขันธุรกิจทั้งในประเทศและภูมิภาครองรับการเติบโตของธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และมีศักยภาพใน Solar energy supply and value chains, เทคโนโลยี AI, Data center, Smart energy platform แบบครบวงจร
นี่คือโจทย์ใหญ่ GPSC ที่ต้องก้าวข้ามผ่านพลังไฟฟ้าแบบดั้งเดิม ไปสู่ “ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าดิจิทัล”..!?
กลับมาสู่ปัจจัยพื้นฐานหุ้น GPSC ไตรมาส 3/68 ตัวเลขกำไรสุทธิ 1,740 ล้านบาท ดูไม่ตื่นเต้นอะไรมากนัก เหตุมีกำไรพิเศษ 745 ล้านบาท จากการขายหุ้น Avaada Energy Private Ltd. (AEPL) ออกไปบางส่วน ทำให้กำไรจากการดำเนินงานจริงอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Changfang and Xidao (CFXD) ในไต้หวัน หลังจาก GPSC เข้าถือหุ้น 25% ช่วงกลางปี 2564 ที่ผ่านมา กำลังเผชิญปัจจัยเชิงลบตามฤดูกาล อาจต้องมีผลขาดทุนต่อเนื่องแต่ตัวเลขขาดทุนจะเริ่มลดลง..!
อย่างไรก็ดี GPSC มุ่งเน้นการเพิ่มอัตรากำไรผ่านการลดต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการเพิ่มสัดส่วนโครงสร้างสัญญาเชื่อมโยงราคาก๊าซธรรมชาติ จากระดับปัจจุบัน 61% เป็น 70% ภายในปี 2573 เพื่อบรรเทาความเสี่ยงจากค่า Ft ในระยะกลาง การสร้างสมดุลระหว่างการขายสินทรัพย์ และการลงทุนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเพิ่มผลตอบแทน
อีกหนึ่งไฮไลต์ต้องจับตาเป็นพิเศษ ล่าสุด GPSC อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทย่อยเครือปตท.เกี่ยวกับการเข้าซื้อสินทรัพย์ ที่การเจรจาจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และทำธุรกรรมเสร็จสิ้นช่วงเดือนเม.ย. 69 ที่สำคัญธุรกรรมดังกล่าวจะสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงพื้นฐานได้มากน้อยเพียงใด..!!?