BSRC โค้งสุดท้าย.!

เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว ที่เราจะได้เห็นหุ้น ESSO เดิม หรือ BSRC ใหม่ โลดแล่นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ


เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว ที่เราจะได้เห็นหุ้นบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO เดิม หรือบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC ใหม่ โลดแล่นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ มาตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. 2551 หรือเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยไอพีโอ 10.00 บาท

เนื่องจากตอนนี้อยู่ระหว่างการตั้งโต๊ะเทนเดอร์ของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ BSRC จำนวน 2,829 ล้านหุ้น คิดเป็น 81.74% ที่ประกาศเทนเดอร์หุ้นที่เหลือทั้งหมด ในระหว่างวันที่ 24 ต.ค.-27 พ.ย. 2568 นี้ โดยใช้วิธีสวอปหุ้น หรือแลกหุ้นในสัดส่วน 1 หุ้นบางจาก ต่อ 6.5 หุ้น BSRC 

ทำให้การเทนเดอร์ครั้งนี้ บางจากไม่ต้องใช้เงินสักกะบาท..!!

แต่ด้วยเป้าหมายชัดเจน…จะเพิกถอนหุ้น BSRC ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ..!! งั้นถ้าไม่ใช้สิทธิแลกหุ้น ก็ถือต่อไป ซึ่งถ้าออกจากตลาดไปแล้ว จะไม่มีตลาดรองในการขายหุ้น ถ้าไม่มีใครสนใจมาขอซื้อโดยตรง ก็ต้องถือยาวกันไป ซึ่งคุณจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยทันที 

แต่ถ้าใช้สิทธิแลกหุ้น…ด้วยอัตราส่วนการแลก 1 หุ้นบางจาก ต่อ 6.5 หุ้น BSRC ถ้าคำนวณจากราคา BSRC ล่าสุดที่ 4.22 บาท จะมีต้นทุนอยู่ที่ 27.43 บาท เทียบกับราคาหุ้นบางจากล่าสุดที่ 28.00 บาท ก็ไม่เสียเปรียบมากนัก ได้ต้นทุนที่ถูกกว่าการไปซื้อหุ้นบางจากในกระดาน ก็อินเดอะมันนี่อยู่นะ…

อย่าลืมว่าการถือหุ้นบางจาก อย่างน้อยก็มีแคปปิตอลเกนนะ แต่ถ้ายังถือหุ้น BSRC ซึ่งออกจากตลาดไปแล้ว จะไม่มีแคปปิตอลเกน ซึ่งอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย…การใช้สิทธิแลกหุ้นจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีของนักลงทุน..!?

แต่ถ้าใครจะใช้สิทธิแลกหุ้นต้องรีบหน่อยนะ เพราะเหลือเวลาให้ตัดสินใจแค่ 4 วันทำการ หรือภายในเวลา 16.00 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย. 2568 แต่ต้องขีดเส้นใต้ไว้ว่า เนื่องจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีขั้นตอนการชำระราคาและส่งมอบหุ้นในวันทำการที่ 2 ถัดจากวันที่ซื้อขาย หรือ T+2 งั้นเท่ากับว่า วันสุดท้ายที่นักลงทุนสามารถซื้อหุ้น BSRC เพื่อนำมาใช้สิทธิแลกหุ้นได้นั้น คือ วันอังคารที่ 25 พ.ย. 2568

หลังจากนั้นจะไม่สามารถใช้สิทธิแลกหุ้นได้อีก ซึ่งถ้าใครไม่อยากถือต่อหลังจากนี้ ทำได้แค่ขายทิ้งในกระดานแล้วล่ะ…

ส่วนที่มาที่ไปของการเพิกถอน BSRC ออกจากตลาดฯ นั้น อาจมีหลายเหตุผล อันดับแรก เพื่อลดความซ้ำซ้อนของโครงสร้างธุรกิจ

ถัดมาคงไม่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือทางการเงินในตลาดทุนแล้ว เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ส่วนตัว BSRC เองเงินสดก็มีไม่น้อย โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 1,150.17 ล้านบาท และมีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรรอยู่ที่ 1,150.66 ล้านบาท

และด้วยเงื่อนไขของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ต้องแจ้งทุกความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับบริษัท ทำให้ไม่มีความคล่องตัว ผู้ถือหุ้นใหญ่คงมองว่า งั้นเอาออกจากตลาดไปเลยดีกว่าละมั้ง..??

ขณะที่มองทิศทางธุรกิจของบางจากเริ่มฟื้นตัวตามลำดับ เห็นได้จากงบไตรมาส 3/2568 ที่พลิกมามีกำไรสุทธิ 1,107.89 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 2,093.01 ล้านบาท หลังจากค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้น และผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันที่ลดลง

ผสมโรงกับการมีพันธมิตรใหม่ที่เป็นบิ๊กเนมอย่าง บริษัท อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี จํากัด เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 275.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 20.0083% ก็น่าจะทำให้หุ้นบางจากหวือหวากว่าในอดีตอ่ะนะ..??

ที่สำคัญจุดเด่นของบางจากเป็นหุ้นที่มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนค่อนข้างสูง ดิวิเดนด์ยีลด์เฉลี่ย 5-6% ต่อปี แม้ล่าสุดยีลด์จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.75% แต่ยังสูงกว่าการถือหุ้น BSRC ที่ให้ดิวิเดนด์ยีลด์แค่ 1.90% เท่านั้น

เอาเป็นว่า เตรียมนับถอยหลังหุ้น BSRC กับตลาดทุนกันได้เลย เมื่อถึงวันนั้นก็จะปิดฉากหุ้น BSRC ไปโดยปริยาย..!!

ส่วนถ้าถามว่า ในอนาคตจะมีโอกาสได้เห็นหุ้น BSRC กลับมาโลดแล่นในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกมั้ย..??

อันนี้ตอบยากจริง ๆ ขึ้นอยู่กับนโยบายของกลุ่มบางจากแล้วล่ะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button