SPPT กับทุนการเมือง

เดิมทีอาจารย์ไม่ได้มีความสนใจหุ้น SPPT สักเท่าไหร่ เพราะเป็นหุ้นที่มีผลขาดทุนเรื้อรังเป็นเวลานาน และธุรกิจก็ไม่ทำเงินเหมือนเช่นในอดีต จึงเป็นการเสียเวลาเปล่า หากจะลุ้นให้หุ้นกลับมาทำกำไรอย่างยั่งยืน


สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

 

คุณวันดี จากลาดพร้าว 64 กรุงเทพฯ พูดถึงข่าวการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของหุ้น SPPT หรือ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นอะไรที่ดิฉันรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการเข้ามาเทคโอเว่อร์ธุรกิจที่กำลังอยู่ในช่วงตะวันตกดิน จึงสงสัยว่า กลุ่มทุนใหม่เห็นอะไรในบริษัทนี้ ถึงกล้าทุ่มเงินซื้อหุ้นต่อจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมมากถึง 40.52 ล้านหุ้น หรือ 17.47% ของหุ้นจดทะเบียน รบกวนอาจารย์ช่วยไขข้อข้องใจดังกล่าวที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ

 

เดิมทีอาจารย์ไม่ได้มีความสนใจหุ้น SPPT หรือ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สักเท่าไหร่ เพราะเป็นหุ้นที่มีผลขาดทุนเรื้อรังเป็นเวลานาน และธุรกิจก็ไม่ทำเงินเหมือนเช่นในอดีต จึงเป็นการเสียเวลาเปล่า หากจะลุ้นให้หุ้นกลับมาทำกำไรอย่างยั่งยืน

ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ภาพของหุ้นตัวนี้ค่อยๆ เลือนหายไปจากความสนใจของผู้คนเป็นเวลานานเกือบ 4 ปี ขณะที่ราคาหุ้นก็รูดลงมาเรื่อยๆ จนลงมาย่ำฐานที่บริเวณ 2 บาทเป็นเวลาหลายเดือน ทั้งที่หลายปีก่อนราคาหุ้นเคยขึ้นไปถึงระดับ 4-5 บาท แต่สุดท้ายก็ยืนที่ราคาดังกล่าวได้ไม่นาน

เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นว่า การปรับตัวของราคาหุ้น SPPT ยังขึ้นอยู่กับตัวเลขกำไรที่ทำได้ในแต่ละปีเป็นหลัก และการทะยานขึ้นเที่ยวนี้น่าจะต้องอิงกับผลประกอบการเหมือนกัน เพราะหากเป็นการขึ้นที่อิงกับกลุ่มทุนใหม่เข้ามาซื้อหุ้นต่อจากกลุ่มทุนเดิม ย่อมเป็นการปั่นกระแสที่โอเว่อร์มากเกินไป และสุดท้ายจะลงเอ่ยด้วยการติดหุ้นราคาสูงกันอย่างถ้วนหน้า(หุ้นหลายตัวเคยโดนมาแล้ว)

 

  ปี 55 ปี 56 ปี 57 ปี 58 งวด 9 เดือน ปี 59
รายได้รวม 1,044.10   618.35   519.25   501.51   321.68  
กำไรสุทธิ 343.78   16.46   -23.56   -25.22   -12.26  
กำไรต่อหุ้น (บาท) 1.37   0.07   -0.10   -0.11   -0.05 

(หน่วย : ล้านบาท)

 

ที่สำคัญคือเมื่อเจาะลึกลงไปยังกลุ่มทุนใหม่ที่เข้ามาถือหุ้น 40.52 ล้านหุ้น หรือ 17.47% ในราคาหุ้นละ 2.98 บาทต่อหุ้น พร้อมกับปรากฎชื่อ “นายณัฐพงศ์-นางประภา ศีตวรรัตน์” ทำให้อาจารย์รู้ได้ในทันทีว่า 2 คนนี้ไม่ธรรมดาเพราะผู้ชายเคยนั่งเป็น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายไชยา สะสมทรัพย์) และยังเคยที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล)หรือแม้กระทั่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายไชยา สะสมทรัพย์)

ส่วนฝ่ายผู้หญิงก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 15 ในหุ้น WP หรือบริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นจำนวน 30.86 ล้านหุ้น หรือ 1.12% และก่อนจะมาใช้ชื่อใหม่ดังกล่าว ประวัติความเป็นมาของหุ้นตัวนี้ก็คือ PICNIC หรือ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นแหล่งซ่องซุ่มกลุ่มทุนทางการเมืองทั้งนั้น

สิ่งที่อาจารย์สรุปได้ในวันนี้คือ ไม่รู้จุดประสงค์ของการซื้อหุ้น SPPT ในครั้งนี้ แต่ที่รู้แน่ๆ คือ ทางการกำลังจับตาดูกลุ่มคนที่เข้ามามั่วสุ่มในหุ้นตัวนี้อย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าในท้ายที่สุดต้องมีอะไรสนุกๆ เกิดขึ้นให้เห็นอีกครั้งนะครับ

Back to top button