BKD มั่นใจปี 60 กำไรนิวไฮ หลัง Q1/60 กำไรเกือบเท่าทั้งปี 59

BKD มั่นใจปี 60 กำไรนิวไฮ หลัง Q1/60 กำไรเกือบเท่าทั้งปี 59


นางสาวณัฐนันท์ ประสงค์ชัยกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKD เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรสุทธิปีนี้น่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 1,367.83 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 78.93 ล้านบาท หลังผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 ทำกำไรสุทธิได้แล้ว 75.89 ล้านบาท ซึ่งเกือบเท่ากับกำไรทั้งปีที่แล้ว เป็นผลจากการเน้นรับงานที่มีขนาดเล็กลง และสามารถทำเสร็จได้เร็วขึ้น หรือส่งมอบงานได้ภายใน 1-2 เดือน

ขณะที่บริษัทเตรียมพิจารณาปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ปีนี้จากเดิมคาดว่าจะเติบโตราว 8% จากปีก่อน หลังสิ้นสุดงบการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 เนื่องจากมองแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกทั้งรายได้และกำไรสุทธิ ตามการรับรู้งานในมือ (Backlog) ประกอบกับจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายที่ดินย่านกรุงเทพกรีฑามูลค่า 400 ล้านบาทด้วย

“เรายังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตที่ 8% โดยมีแผนที่จะพิจารณาปรับเพิ่มหลังสิ้นสุดไตรมาส 2/60 เนื่องด้วยผลการดำเนินงานต่าง ๆ ก็น่าจะดีกว่าที่คาดไว้ และเรามีการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายที่ดินเข้ามา ทำให้ปีนี้รายได้และกำไรสุทธิน่าจะทำนิวไฮได้”นางสาวณัฐนันท์ กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมืออยู่ราว 1,300 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด และยังอยู่ระหว่างรอผลงานใหม่ที่ได้เข้าประมูลงานของภาคเอกชน มูลค่ารวม 420 ล้านบาท แบ่งเป็น งานโรงแรม 5 ดาว 100 ล้านบาท ,คอนโดมิเนียม 10 ล้านบาท ,ออฟฟิศ 100 ล้านบาท ,โรงแรม 200 ล้านบาท และรีโนเวทออฟฟิศอีก 10 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างจะเข้าประมูลงานเพิ่มเติม แบ่งเป็นงานภาคเอกชน มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ One Bangkok มูลค่า 3,000 ล้านบาท ,งานปรับปรุงพื้นโรงพยาบาลกรุงเทพ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่า BKD น่าจะมีโอกาสในการเข้าไปมีส่วนร่วมไม่มากก็น้อย และงานรีโนเวทห้อง 200 ห้องของโรงแรมใน จ.ภูเก็ต มูลค่าราว 100 ล้านบาท รวมถึงยังมองโอกาสเข้าไปรับงานภาครัฐ ซึ่งภาครัฐน่าจะออกมา 3-4 โครงการ มูลค่าราว 1,000 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจรับเหมาตกแต่งภายในที่ได้ทำสัญญากับกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ประเทศกัมพูชา หรือ Chip Mong Land  (ชิพหมงแลนด์) เพื่อเข้าไปตกแต่งภายในโครงการทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตกแต่งภายในเฟสที่ 1 มูลค่าราว 200 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ และน่าจะได้รับงานเข้ามาอย่างต่อเนื่องในเฟสที่ 2 ซึ่งจะเห็นความชัดเจนในปีหน้า รวมถึงกลุ่ม Chip Mong Land ยังมีแผนรุกโครงการโรงแรมเพิ่มเติมอีก ก็น่าจะเป็นผลดีต่อบริษัทที่จะได้เข้าไปรับงานดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศยังคงมีไม่มาก โดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นงานในประเทศเป็นหลัก

Back to top button