‘ชูชาติ เพ็ชรอำไพ’ MTLS‘กำไร-ราคาหุ้น’พุ่งทะยาน

“ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” ซีอีโอ “เมืองไทย ลิสซิ่ง” (MTLS) เป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) 1 ใน 5 ที่เข้ามาติด TOP CEO 2017 จากการจัดอันดับของ  “ข่าวหุ้นธุรกิจ” หลังยังคงโชว์ฟอร์มบริหารงานยอดเยี่ยมด้วยอัตรากำไรช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ กว่า 1,758 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% (981 ล้านบาท) และมากกว่ากำไรของทั้งปี 2559 ขณะที่ราคาหุ้นได้วิ่งขึ้นตามผลประกอบการเช่นกัน หรือจาก 24.70 บาท ณ สิ้นปีก่อน และล่าสุดมาอยู่ที่ 39 บาท เพิ่มขึ้น 57.78%


*TOP CEO 2017

“ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” ซีอีโอ “เมืองไทย ลิสซิ่ง” (MTLS) เป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) 1 ใน 5 ที่เข้ามาติด TOP CEO 2017 จากการจัดอันดับของ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” หลังยังคงโชว์ฟอร์มบริหารงานยอดเยี่ยมด้วยอัตรากำไรช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ กว่า 1,758 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% (981 ล้านบาท) และมากกว่ากำไรของทั้งปี 2559 ขณะที่ราคาหุ้นได้วิ่งขึ้นตามผลประกอบการเช่นกัน หรือจาก 24.70 บาท ณ สิ้นปีก่อน และล่าสุดมาอยู่ที่ 39 บาท เพิ่มขึ้น 57.78%

MTLS เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรกเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2557 มีมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และราคาเสนอขายไอพีโอ หุ้นละ 5.50 บาท

วันแรกที่มีการซื้อขายปรากฏว่าราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 11.90 บาท หรือเพิ่มขึ้นจากไอพีโอ 116% และมีมูลค่าการซื้อในวันนั้นกว่า 1.19 หมื่นล้านบาท

วอลุ่มการซื้อขายที่คึกคักสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจในหุ้นตัวนี้ของนักลงทุนที่ต่างมองว่าเป็นหุ้นที่มีฟื้นฐานดี และมีอัตราการเติบโตสูงทั้งด้านการปล่อยสินเชื่อและอัตรากำไรสุทธิ

หากดูผลประกอบการในปี 2557 มีกำไรสุทธิ 544.12 ล้านบาท และปี 2558 กำไรสุทธิ 825 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.62% ส่วนปี 2559 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาเป็น 1,464 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง 77.45% และปี 2560 ผ่านมาเพียง 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) MTLS มีกำไรรวมแล้ว 1,758 ล้านบาท หรือเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 981 ล้านบาท กำไรเติบโตแล้ว 79%

ตัวเลขกำไรล่าสุดดังกล่าว นอกจากจะมากกว่าตัวเลขกำไรทั้งปี 2559 แล้ว ก็ยังถือว่าเป็นการทำกำไรสถิติสูงสุดหรือนิวไฮได้ต่อเนื่องนับจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

จะเห็นได้ว่า แม้กำไรของ MTLS จะมีฐานที่ใหญ่ขึ้น

ทว่า สัดส่วนเปอร์เซ็นต์การเติบโตก็ยังคงขยายตัวต่อไป และไม่ได้มีการเติบโตในอัตราถดถอยจากฐานที่ใหญ่ขึ้น

กำไรที่ยังคงปรับเพิ่ม มาจากยอดปล่อยสินเชื่อที่ขยายตัวอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

ผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม นอกจากการมีทีมงานที่ดีแล้ว

ยังสะท้อนถึงการมีแม่ทัพใหญ่ที่ยอดเยี่ยม คอยบัญชาการบริหารงานและวางแผนงานเพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เติบโตทั้งด้านรายได้และอัตรากำไรสุทธิ

MTLS ก่อตั้งโดย “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2535

ทุนจดทะเบียนเริ่มแรกอยู่ที่ 2 ล้านบาท (ปัจจุบัน 2,120 ล้านบาท) เพื่อทำธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ทั้งใหม่และมือสองทุกยี่ห้อ ผ่านผู้จัดจำหน่ายทั้งใน จ.พิษณุโลกและจังหวัดอื่นๆ ในเขตภาคเหนือตอนล่าง เช่น สุโขทัย กำแพงเพชร และพิจิตร

ต่อมา MTLS ได้เพิ่มการให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์เพื่อเป็นการต่อยอดการให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้าที่ผ่อนชำระค่างวดตามสัญญาเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว รวมทั้งเพิ่มประเภทรถไปสู่รถยนต์และรถเพื่อการเกษตรเพื่อให้บริการกับลูกค้าได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น

กิจการของ MTLS ได้เติบโตมากขึ้นมาเป็นลำดับ

ปัจจุบัน MTLS ทำธุรกิจสินเชื่อ 4 ประเภท คือ สินเชื่อที่ดิน สินเชื่อป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ สินเชื่อป้ายทะเบียนรถยนต์ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์

ทั้งนี้  MTLS ภายใต้การบริหารของ “ชูชาติ” ยังคงมีแผนขยายสาขาต่อเนื่อง

ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 2,294 แห่ง เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากสิ้นปี 2559 ที่ 1,664 แห่ง และจาก 506 แห่งในสิ้นปี 2557 ด้านพอร์ตสินเชื่อก็เติบโตขึ้น 70% ในปี 2558 และ 86% ในปี 2559

MTLS มีเป้าหมายขยายสินเชื่อ 50% ในปี 2560, 40% ในปี 2561, 40% ในปี 2562 และ 30% ในปี 2563 โดยจะเปิดสาขาใหม่ปีละ 600 แห่ง ส่งผลให้จะมีสาขาทั้งสิ้นประมาณ 4,000 แห่งในสิ้นปี 2563

MTLS เป็น Leader หรือผู้นำของอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 เมื่อพิจารณาจากขนาดของพอร์ตสินเชื่อ และเป็นอันดับ 2 ในจำนวนสาขา ปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จ คือ ลูกค้าเข้าถึงบริการสินเชื่อจำนำได้ง่าย มีการกระจายความเสี่ยงทั้งด้านหลักประกัน ฐานลูกค้า และทำเลที่ตั้งสาขา รวมทั้งบริษัทมีการปรับขนาดสินเชื่อให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละรายด้วย

คุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่ง โดย NPL ratio สิ้น ก.ย. 2560 ยังต่ำเพียง 1.1% ลดลงจากสิ้นเดือน มิ.ย. 2560 เท่ากับ 1.2% และมี Coverage ratio  282% ในสิ้นไตรมาส 3/2560 และ MTLS คาดว่าจะรักษาระดับ NPL ratio ไว้ไม่เกิน 1.4% ในระยะต่อไป

นอกจากนี้ MTLS ยังมีเงินทุนเพียงพอในการขยายธุรกิจ โดย “ชูชาติ” ระบุว่าขณะนี้มีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอทั้งจากการกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ และการออกตราสารการเงิน ทำให้ไม่มีแผนเพิ่มทุนในระยะกลาง และ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2560 มี D/E ratio หรือหนี้สินต่อทุน 3.0 เท่า

ไม่เพียงเท่านั้น โบรกฯ ยังได้คาดการผลประกอบการของ MTLS ไตรมาส 4/2560 โดย บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า คาดการณ์กำไรจะเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 680-700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5-8% จากไตรมาส 3/2560 และก้าวกระโดด หรือเพิ่ม 40-45% จากไตรมาส 4/2559 ตามฤดูกาลที่ดีของการปล่อยสินเชื่อเพราะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรและฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยในปลายปี

และคาดว่าสินเชื่อจะเติบโต 16% จากไตรมาส 3/2560  และ 60% จากไตรมาส 4/2559

เมื่อรวมกับกำไรช่วง 9 เดือนแรกที่รายงานที่ 1,758 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้น 79% จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2560 มาอยู่ที่ 2.44 พันล้านบาท  เพิ่มขึ้น 6.75%

ตัวเลขที่เติบโตระดับสูงในทุกๆ ปีนั้นมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น

ราคาหุ้นของ MTLS จะพบว่า แม้ในบางช่วงราคาจะปรับลงบ้าง แต่ทิศทางนั้นเป็นขาขึ้นมาโดยตลอด และปรับขึ้นในทุกปี ล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ธ.ค. 2560 ราคาหุ้นมาอยู่ที่ 39 บาทต่อหุ้น เพิ่มจากสิ้นปี 2559 ที่อยู่ 24.70 บาท หรือเปลี่ยนแปลงบวกขึ้นมา 57.78%

หากนับจากราคาหุ้นไอพีโอ หลังจากเข้าตลาดหุ้นมา 3 ปี

ราคาหุ้น MTLS ปรับขึ้นมาสูงถึง 609% พี/อี เรโช อยู่ที่ 36.90 เท่า และเป็นหุ้นใน “กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์” ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปสูงสุดในกลุ่มด้วยมูลค่า 82,680 ล้านบาท

เส้นทางการเติบใหญ่ของ MTLS นั้น “ชูชาติ” เคยให้สัมภาษณ์กับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ตัวเขาเริ่มจากการทำงานธนาคารกสิกรไทย  จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK หรือการเป็นนายแบงก์มาก่อน

ส่วนภรรยาของเขาที่ร่วมกันก่อตั้ง  MTLS คือ “ดาวนภา เพชรอำไพ” ก็ทำงานที่ KBANK มาก่อนเช่นเดียวกัน

การได้ทำงานธนาคารกสิกรไทย ของทั้ง ชูชาติ และภรรยา ทำให้ได้โนว์ฮาวการทำงานด้านการปล่อยสินเชื่อ การบริหารคน และการวางระบบบัญชี

ประกอบกับทางบ้านนั้นทำธุรกิจค้าขายอยู่ก่อนแล้ว

และทราบดีว่า หัวใจสำคัญของการค้าขายนั้นอยู่ตรงไหน ซึ่งนั่นก็คือ “การบริการ”

การบริการนั้นอยู่ในดีเอ็นเอ หรือเป็นดีเอ็นเอของเราอยู่แล้ว เราให้ความสำคัญกับตรงนี้มาก เราต้องเข้าใจลูกค้า รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร เราต้องบริการให้ได้” ชูชาติ กล่าว

ชูชาติ สรุปกุญแจที่นำไปสู่ความสำเร็จของ MTLS อีกว่า

1.ไม่เอาเปรียบลูกค้า ซึ่งชูชาติ ขยายความในส่วนนี้ว่า เช่น การคิดดอกเบี้ยสินเชื่อป้ายทะเบียนรถมอเตอร์ไซด์ และรถยนต์ ถูกที่สุดในประเทศ รวมถึงสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ที่ปล่อยกู้เป็นอันดับ 1 ก็คิดดอกเบี้ยเพียง 29% ต่อปี ทั้งที่ตามกฎหมายสามารถเรียกเก็บได้ถึง 36%

2.การให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า

และ 3.อย่าเอาเปรียบลูกน้อง หรือพนักงานจะต้องกินอิ่ม นอนอุ่น ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมาก พร้อมยกตัวอย่าง MTLS จ่ายเงินเดือนเท่าระบบราชการ บวกโบนัสขั้นต่ำ 3 เดือน ทุกปี หากมีกำไรก็จะแบ่งเพิ่มเติมให้อีก เรียกว่าพยายามให้ทุกอย่างที่ลูกน้องพอใจ อยู่ร่วมกันแบบครอบครัวเดียวกันไม่เอาเปรียบกัน

“การไม่เอาเปรียบลูกค้าผมก็คิดดอกเบี้ยถูกๆ คุณทำได้ไหม อย่าเอาเปรียบพนักงานให้เค้าได้กินอิ่ม นอนอุ่น ให้เค้าอยู่สบายเดี๋ยวเค้าทำงานให้เรา ก็ตีความว่าต้องมีโบนัส เงินเดือน รายได้ มีหุ้นก็แบ่งให้เค้า คุณทำได้ไหม หลายคนที่ทำไม่ได้ เพราะความโลภ ผมทำในสิ่งที่คนรู้ เหมือนธรรมะที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”

ปัจจุบัน “ชูชาติ” อายุ 65 ปี และทำธุรกิจ MTLS มาแล้ว 40 ปี แต่ชูชาติบอกว่า ตัวเองนั้นยังคงมีไฟในการทำงาน

และยังคงมุ่งมั่นที่จะให้ MTLS ก้าวหน้าต่อไป

Back to top button