TAKUNI นับหนึ่งจากฐานเดิม

หลังจากเงียบหายไปหลบเลียบาดแผลในมุมมืดยาวนานเกือบ 2 ปี ล่าสุดเช้าวานนี้ บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI ก็โผล่สู่แสงสว่างพร้อมด้วยข่าวดีเสียที


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

หลังจากเงียบหายไปหลบเลียบาดแผลในมุมมืดยาวนานเกือบ 2 ปี ล่าสุดเช้าวานนี้ บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI ก็โผล่สู่แสงสว่างพร้อมด้วยข่าวดีเสียที

TAKUNI ระบุว่า บริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้คว้างานก่อสร้าง 5 โครงการ มูลค่ารวม 115.29 ล้านบาท ได้แก่

  • งานรับจ้างเหมางานโครงสร้าง งานเครื่องกล งานท่อ งานสี และงานนั่งร้าน โครงการหน่วยผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (In-Plant Power Generator) กิจกรรมก่อสร้างหน่วยผลิตไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง มูลค่าโครงการ 82.72 ล้านบาท มีระยะเวลาก่อสร้าง 13 เดือน
  • งานสถาปัตยกรรม และงานโยธา โครงการหน่วยผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (In-plant Power Generator) (งานเพิ่มเติม) ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง มูลค่าโครงการ 4.4 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 2 เดือน  
  • งานรับเหมาก่อสร้างงานโครงสร้างระบบและงานเดินท่อ (งานเพิ่มเติม) ในอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มูลค่าโครงการ 22 ล้านบาท มีระยะเวลาก่อสร้าง 8 เดือน
  • งานออกแบบและผลิตขึ้นรูปถังรับความดันผนังบาง 4 ถัง เพื่อบรรจุน้ำมันร้อนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง มูลค่าโครงการ 5.9 ล้านบาท มีระยะเวลาก่อสร้าง 5 เดือน
  • งานสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างระบบท่อในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง มูลค่าโครงการ 265,535 บาท มีระยะเวลาก่อสร้าง 1 เดือน

งานที่คว้ามาได้นี้ แม้จะไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็น่าจะรองรับผลงานตามเป้าหมายที่ นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ TAKUNI ลูกสาวคนสวยของ “บิ๊กเสริฐ” นายประเสริฐ ตรีวีรานุวัฒน์ ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ปี 2561 นี้มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ 828.83 ล้านบาท รวมถึงบริษัทยังคงเดินหน้าเข้ารับงานใหม่ ช่วยผลักดันให้ผลประกอบการกลับมาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มมีงานรับเหมาก่อสร้างน้ำมันและก๊าซที่อยู่ระว่างดำเนินการและยังไม่รับรู้รายได้ ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2560 จำนวน 755.07 ล้านบาท และ ณ วันที่ 19 ม.ค. 2561 ได้แจ้งข่าวการรับงานก่อสร้างเพิ่มเติมอีกจำนวน 73.76 ล้านบาท

การย้อนกลับมาทำกำไรระลอกใหม่ในงบการเงินงวดสิ้นปี 2560 ที่สามารถบันทึกกำไรสุทธิอยู่ที่ 35.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.80 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 72.66% เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 20.37 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีรายได้รวม 1,925.12 ล้านบาท ที่เกิดจากการหวนย้อนเส้นทางเดิมจากการทำรายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้งานก่อสร้างน้ำมัน และแก๊สของบริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด เป็นสำคัญ ….ไม่ตุปัดตุเป๋ไปกับความพยายามกระจายรายได้ไปสู่ธุรกิจอื่นที่ไม่ถนัดและล้มเหลวมากกว่าสำเร็จ

ก่อนหน้านี้ TAKUNI เคยคิดและพยายาม “ผ่าทางตัน” ด้วยการหันเหทิศทางจากธุรกิจเดิม มุ่งสู่ธุรกิจพลังานชีวมวลในทางลัด ด้วยการก่อตั้งบริษัท นิวแมน กรีน จำกัด เป็นบริษัทย่อย ใช้เงินลงทุน 140 ล้านบาท เมื่อปลายปี 2558 เพื่อลงทุนบางส่วนในบริษัท เวลล์ โคราช เอ็นเนอร์ยี จำกัด (เวลล์ โคราช) ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล (Biomass) จำนวน 1 โรงงาน ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุด 8 เมกกะวัตต์ แต่ปรากฏว่า….ไม่เวิร์ก

บิ๊กเสริฐนั้น มีปูมหลังสร้างตัวขึ้นมาจากการทำงานหนัก จากธุรกิจรับติดตั้งถังแก๊สรถยนต์ ก่อสร้างปั๊มแก๊ส และสถานีให้บริการปั๊มแก๊สแก่ภาคอุตสาหกรรม ภายใต้แบรนด์เนม แชมเปี้ยน แก๊ส มายาวนานกว่าครึ่งชีวิต และหันมาเดินทางลัดบนเส้นทางของการร่ำรวยผ่านธุรกรรมทางการเงิน ด้วยการแต่งตัวเข้าระดมทุนจากตลาดหุ้น โดยช่วงหนึ่ง TAKUNI มีราคาหุ้นที่หวือหวา ก่อนที่ผลประกอบการจะย่ำแย่ลง จนต้องพยายามหาธุรกิจใหม่ชดเชย

เมื่อการกระจายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจพลังงานไม่ได้ผลดีตามคาด การถอนตัวกลับอย่างรวดเร็วจออกจากธุรกิจ จึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันให้มีความเสียหายร้ายแรง…หากไม่นับค่าเสียโอกาส

อย่างเลวร้ายสุดๆ ของปี 2559-2560 คือ กำไรที่ลดลงฮวบฮาบ แต่ไม่มีขาดทุนสุทธิให้เสียหาย…แม้จะมีผลให้ค่า พี/อี พุ่งกระฉูดฉุดราคาหุ้นลงต่ำเตี้ย

การตัดขายหุ้นที่ถือในเวลล์ โคราชทั้งหมดทิ้งไปคิดเป็นเงินมูลค่า 148.50 ล้านบาท…. เทียบกับเงินลงทุนที่ซื้อมา 140 ล้านบาท มีกำไรติดปลายนวมเล็กน้อย…จึงเป็นการตัดไฟแต่ต้นลมที่ “เสียหน้า แต่ไม่เสียเงิน”…แล้วหวนกลับไปทำงานที่ถนัด จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

อย่างน้อยราคาหุ้นที่ลง ก็ช่วยทำให้ TAKUNI ไม่กลายเป็นหุ้นในรายชื่อที่ติดอันดับหัวแถวของ Trading Alert ซ้ำซาก ของตลาดแบบในหลายปีก่อนหน้า

การกลับมา “สู่สามัญ” และมีกำไร โดยที่ราคาหุ้นสมเหตุสมผล ไม่หวือหวาน่าหวาดเสียว….อาจจะไม่สนุก และไม่มีเสน่ห์…แต่การอยู่ในโลกของความเป็นจริง ยังไงก็ดีกว่าอยู่ในเมืองมายามิใช่หรือ

ไม่เชื่อ คงต้องถามบิ๊กเสริฐ กันเอาเอง

อิ อิ อิ

Back to top button