MALEE พ้นปากเหว?

สถานการณ์ของ MALEE เป็นอะไรที่พูดยากจริง ๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2559 เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า มีนักลงทุนบางกลุ่มต้องรู้เกี่ยวกับพัฒนาการของบริษัทที่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา จึงหวนเข้ามาเก็บหุ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และดูเหมือนร


ตีแผ่บจ.ดัง

คุณสุรศักดิ์ จาก อ.เมือง จ.ปทุมธานี พูดถึงการทะยานขึ้นของหุ้น MALEE หรือ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นอะไรที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อน เพราะในช่วง 1 ปีครึ่ง มีแต่คนเจ็บตัวจากหุ้นตัวนี้ด้วยกันทั้งนั้น หลังราคาหุ้นอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง มาวันนี้เห็นราคาหุ้นเริ่มถีบตัวขึ้นแรงท่ามกลางภาวะการลงทุนที่ผันผวน จึงเกิดอาการทำตัวไม่ถูกขึ้นมาอีกครั้ง และอยากให้อาจารย์พูดถึงหุ้นตัวนี้ว่าผ่านพ้นยุคตกต่ำแล้วใช่ไหมครับ

 

สถานการณ์ของหุ้น MALEE หรือ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นอะไรที่พูดยากจริง ๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2559 เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า มีนักลงทุนบางกลุ่มต้องรู้เกี่ยวกับพัฒนาการของบริษัทที่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา จึงหวนเข้ามาเก็บหุ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และดูเหมือนราคาหุ้นจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้แน่ ๆ

ประกอบกับในช่วงที่ดัชนีอ่อนตัวลงมาหนัก ๆ หุ้นตัวนี้ก็อ่อนตัวลงหนัก ๆ เช่นกัน แต่พอถึงจังหวะดัชนีดีดตัวขึ้นอย่างร้อนแรง หุ้นตัวนี้ก็ดีดตัวขึ้นแรงกว่าเห็น ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า หุ้นตัวนี้ยังมีข่าวดีบางอย่างที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ จึงมีโอกาสที่หุ้นจะถีบตัวขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน

ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า MALEE กลายเป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันเข้ามาเล่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้การขึ้นลงของหุ้นขึ้นอยู่กับนักลงทุนกลุ่มนี้ด้วยเหมือนกัน แต่ประเด็นหลัก ๆ ที่ทำให้หุ้นขึ้นอย่างมั่นคงยังอยู่ที่ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีออกมาดีเหมือนครึ่งปีแรกหรือเปล่า ?

โดยผลที่ปรากฏออกมาในช่วงสิ้นปี 2559 พบว่า กำไรของ MALEE เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ พอถึงปี 2560 กลายเป็นว่า กำไรหดลงไปเกือบครึ่ง และกำไรต่อหุ้นลดลงไป 67% และเมื่อถึงไตรมาส 1 ปี 2561 กำไรกลับวูบหนักกว่าเดิม จนเกือบจะพลิกขาดทุนเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นรูดลงต่อเนื่องในช่วง 1 ปีครึ่งนะครับ

จุดที่น่าสนใจช่วงพีกของ MALEE ในปี 2559 อยู่ตรงการคำนวณราคาเป้าหมายของหุ้น ซึ่งตอนนั้นมีการประเมินกันว่า ตัวเลขกำไรสุทธิน่าจะอยู่ที่ระดับ 500 ล้านบาท หรือ 3.60 บาทต่อหุ้น และเมื่อนำตัวเลขดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับค่า P/E ที่ระดับ 40 เท่า (ระดับที่โดนแคชบาลานซ์) หุ้นตัวนี้จะมีราคาเป้าหมายที่ 144 บาท หากลดลงมาเหลือ P/E ที่ระดับ 30 เท่า จะมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 108 บาท

นอกจากนี้ หากทำการปรับลดลงเหลือให้ใกล้เคียงกับ P/E กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่ 25 เท่า ราคาเป้าหมายจะอยู่ที่ 90 บาทนะครับ

โดยตอนนั้นอาจารย์ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า วันนี้นักลงทุนสถาบันให้แวลูของหุ้นตัวนี้ในระดับไหน ราคาหุ้นก็จะไปได้ไกลแค่นั้น นักลงทุนที่คิดจะเล่นต้องเผื่อใจไว้บ้าง เพราะยุคทองของหุ้นตัวนี้คงกินเวลาไม่นานสักเท่าไหร่ (ดูจากกราฟ) ซึ่งเป็นผลมาจากรูปแบบของกำไรที่ทำจุดสูงสุดได้เสร็จสรรพ หลังจากนั้นมักจะเป็นช่วงอิ่มตัว และตามมาด้วยการถดถอย ก่อนจะกลับไปเฟื่องฟูอีกรอบ

การลงทุนใน MALEE ถึงต้องเน้นไปที่เรื่องการทำกำไรเป็นรอบ ๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมนั่นเอง

บทสรุปสุดท้ายของอาจารย์ยังอยู่ที่กำไรไตรมาส 2 ปี 2561 มีการฟื้นตัวที่ชัดเจนขนาดไหน ?

หากไม่ชัดเจนอย่างที่ควรจะเป็น MALEE ก็ยังไม่พ้นจากปากเหวหรอกครับ

สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

Back to top button