“2 โบรกฯดัง” ชี้งบ MONO น่าผิดหวัง! จ่อปรับประมาณการ-ราคาเป้า กดหุ้นร่วงหนัก 7%

"2 โบรกฯดัง" ชี้งบ MONO น่าผิดหวัง! จ่อปรับประมาณการ-ราคาเป้า กดหุ้นร่วงหนัก 7% โดย ณ เวลา 12.04 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.22 บาท ลบ 0.18บาท หรือลดลง 7.50% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 52.53 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังบริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 31 มิ.ย. 61 มีกำไรลด 73% มาที่ 13.66 ล้านบาท จากปีก่อน 51.63 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ขายและบริการหด ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไร 33.13 ล้านบาท ลดลง 56% จากปีก่อน 74.77 ล้านบาท ส่งผลให้โบรกฯเกอร์ชั้นนำของไทย 2 แห่งออกบทวิเคราะห์และเตรียมปรับประมาณการและราคาเป้าหมาย

ขณะเดียวกันราคาหุ้น MONO ภาคเช้าวันนี้(9ส.ค.)ปรับตัวลดลงอย่างหนัก โดย ณ เวลา 12.04 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.22 บาท ลบ 0.18บาท หรือลดลง 7.50% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 52.53 ล้านบาท

โดยบล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(9ส.ค.) ว่า กำไรสุทธิของ MONO ในไตรมาส 2/61 อยู่ที่ 14 ล้านบาท (-30% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, -62% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ต่ำกว่าประมาณการของ  70% และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ 75%

กำไรสุทธิที่ต่ำเกินคาดมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ที่ต่ำคาดของทั้งธุรกิจให้บริการคอนเทนท์บนมือถือ และธุรกิจทีวี ทั้งนี้กำไรสุทธิที่ 14 ล้านบาทนั้นได้รวมรายการพิเศษประมาณ 21 ล้านบาทไว้แล้ว (กำไรสุทธิหลังหักภาษีประมาณ 60 ล้านบาทจากการปรับเงื่อนไขการชำระค่าใบอนุญาต TV ดิจิตอล และการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 39 ล้านบาท) ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษ บริษัทจะมีผลขาดทุนจากธุรกิจหลักใน ไตรมาส 2/61 ที่ 8 ล้านบาท จากที่มีกำไรจากธุรกิจหลัก 52 ล้านบาทใน 2Q60 และ 16 ล้านบาทใน 1Q61

ผลประกอบการจากธุรกิจหลักแย่ลง เทียบไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจาก i) รายได้ลดลง 2% เหลือ 618 ล้านบาท เพราะรายได้จากธุรกิจ content มือถือลดลงถึง 20% เทียบไตรมาสก่อนหน้า เหลือ 95 ล้านบาทในขณะที่รายได้จากธุรกิจทีวี เพิ่มขึ้นแค่ 2% เทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็น 486 ล้านบาทแม้เป็นช่วงไฮซีซั่น

เนื่องจากถูกกระทบจากการถ่ายทอดฟุตบอลโลก และเรทติ้งที่ลดลงจาก 0.83 ใน 1Q61 เหลือ 0.81 และ ii) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 11% เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์บางรายการ ทั้งนี้เมื่อเทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลประกอบการจากธุรกิจหลักก็แย่ลงเช่นกันเนื่องจากรายได้จากธุรกิจให้บริการคอนเทนท์บนมือถือลดลงถึง 51% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยคาดว่าธุรกิจ TV ดิจิตอลของบริษัทจะดีขึ้นใน 2H61 ตามเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 มาอยู่ที่ 0.87 แต่อย่างไรก็ตาม  มองว่าประมาณการกำไรสุทธิปี 2561-62 ของ ที่ 223 ล้านบาท (+283% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และ 376 ล้านบาท (+69% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ยังมี downside อีก เนื่องจาก i) ธุรกิจให้บริการคอนเทนท์บนมือถือน่าจะหดตัวลงอีกอย่างต่อเนื่อง และ ii) กำไรสุทธิใน 1H61 อยู่ที่ 33 ล้านบาท คิดเป็นแค่ 15% ของประมาณการกำไรทั้งปีของ เท่านั้น ด้าน Valuation & action กำลังอยู่ระหว่างการทบทวนคำแนะนำและราคาเป้าหมายของ MONO

 

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(9ส.ค.) ว่า MONO ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2/61 ที่ 14 ล้านบาท (-73%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -29%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ต่ำกว่าที่ และตลาดคาดไว้ที่ 65% และ 75% ตามลำดับ โดยหากไม่รวมรายการพิเศษการบันทึกกลับจากการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขชำระค่าธรรมเนียมไลเซ่นส์จำนวน 75 ล้านบาท MONO จะมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน13 ล้านบาท เทียบกับ ไตรมาส2/60 ที่กำไรจากการดำเนินงาน 72 ล้านบาท และไตรมาส1/61 ที่กำไรจากการดำเนินงาน 33 ล้านบาท

สาเหตุหลักมาจากรายได้ธุรกิจให้บริการผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Subscription Service) ยังคงลดลงมากกว่าคาด และธุรกิจมีเดียเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ ในขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่คงที่ และมีการบันทึกค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ไม่ก่อให้เกิดรายได้จากธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นไตรมาสนี้ 39 ล้านบาท

โดยรายได้รวมอยู่ที่ 619 ล้านบาท ลดลง -10%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ -2%เทียบไตรมาสก่อนหน้า มาจากธุรกิจให้บริการผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลงมากกว่าคาด -51%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, 20%เทียบไตรมาสก่อนหน้า (สัดส่วนรายได้ 15%) จากพฤติกรรมผู้ใช้ SMS ลดลง สำหรับรายได้สื่อให้บริการโฆษณาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, 2%เทียบไตรมาสก่อนหน้า

แม้ว่าจะอยู่ในช่วงไฮซีซั่นธุรกิจมีเดียบริษัทมีการปรับอัตราค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้น โดย ไตรมาส2/61F อัตราค่าโฆษณาอยู่ที่เฉลี่ย 39,000 บาท/นาที เพิ่มขึ้นจาก 1Q18 เฉลี่ยอยู่ที่ 33,000 บาท/นาที อัตราการใช้สื่อ ไตรมาส2/61F อยู่ที่ 58% เทียบกับ 1Q18 อยู่ที่ 53% โดยช่อง MONO29 ใน ไตรมาส2/61 มีเรตติ้ง (Rating 4+ 18 hrs.) ที่ 1.015 เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับ ไตรมาส2/60 ที่เรตติ้ง 0.857 และ ณ ก.ค.18 ที่เรตติ้ง 1.103 มีอันดับ 3

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างปรับประมาณการและราคาเป้าหมาย  แนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุน เนื่องจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังพลิกเป็นขาดทุน และคาดว่า consensus จะปรับประมาณการผลประกอบการลงเช่นกัน 

Back to top button