MALEE รายได้พุ่ง ฉุดงบ Q2/61 พลิกขาดทุน 14.87 ลบ.

MALEE รายได้พุ่ง ฉุดงบ Q2/61 พลิกขาดทุน 14.87 ลบ. จากปีก่อนกำไร 61.35 ลบ. ขณะที่งวด 6 เดือน พลิกขาดทุน 5.41 ลบ. จากปีก่อนกำไร 179.85 ลบ.


บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.61 ดังนี้

โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวพลิกขาดทุน เนื่องจากในไตรมาส 2/61 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดขายรวม 1,327 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน จากการลดลงของธุรกิจ CMG ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ Brand ต่างประเทศเติบโตก้าวกระโดดจากการรับรู้รายได้ 87 ล้านบาท จาก Long Quan Safe Food JSC (LQSF) บริษัทย่อยแห่งใหม่ในเวียดนาม ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา ในขณะที่ ธุรกิจ CMG ในประเทศ เติบโตทั้งจากสินค้าใหม่และจากสินค้าเดิมบางรายการ โดยยอดขายธุรกิจ Brand ในประเทศเติบโตได้เล็กน้อย

อีกทั้ง บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2/61 เท่ากับ 15 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาทางการเงินและที่ปรึกษาด้านกฏหมาย 22 ล้านบาท จากการเข้าลงทุนใน LQSF ประเทศเวียดนาม รวมถึงค่าที่ปรึกษาจากโครงการลงทุนอื่นๆ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น เพียงครั้งเดียว สัดส่วนการขายต่างประเทศลดลง สง่ ผลให้อัตรากำไรสุทธิลดลง

ขณะที่ ค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนเพิ่มเติมในโรงงาน เครื่องจักร และสำนักงาน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต สำหรับรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจในอนาคต แต่การลงทุนบางส่วนยังไม่สามารถสร้างรายได้ในทันทีบางส่วนยังใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ หรือยังไม่ถึงจุดที่มีประสิทธิภาพสูงพอ รวมถึงบางมความล่าช้า ทำให้
ต้นทุนต่อหน่วยสูงขึ้นในระยะสั้น

สำหรับ ต้นทุนภาษีสรรพสามิต และภาษีน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2560 ส่วนค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลค่อนข้างมากในช่วงต้นของโครงการ และต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากภาระเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นจากการทยอยจ่ายเงินลงทุนในเครื่องจักร บริษัทย่อย และธุรกิจการร่วมค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ส่วน EBITDA ในไตรมาส 2/61 เท่ากับ 43 ล้านบาท ลดลง 66% จากปีก่อน และ 43% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ ถ้าไม่รวมรายการค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาทางการเงินและที่ปรึกษา
ด้านกฏหมาย 22 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว จะมี EBITDA เท่ากับ 61 ล้านบาทลดลง 52% จากปีก่อน และ 19% จากไตรมาสก่อน

ทั้งนี้บริษัทเตรียมเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นงดจ่ายเงินปันผลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2561 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2561

Back to top button