RJH ครึ่งปีหลังจะดีขึ้น

คุณค่าบริษัท มีการวิเคราะห์กันว่าผลการดำเนินงานในครึ่งห …


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่าผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปี 2561 ของ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH จะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน และงวดเดียวกันของปีก่อน

เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากช่วง High season ของธุรกิจโรงพยาบาล กอปรกับปีนี้ฤดูฝนมาเร็วและนานกว่าช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อฝนตกมักจะก่อการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก

ประกอบกับการขยายตลาด Check Up ใหม่ ๆ เช่น การให้บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

รวมถึงการเพิ่มกำลังและศักยภาพการให้บริการ คือบริษัทได้เพิ่มจำนวนเตียงในบริษัทแม่ไปแล้ว 12 เตียง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจะมีการเพิ่มเตียงอีกจำนวน 6 เตียงในบริษัทย่อยในช่วงเดือนกันยายนนี้ รวมทั้งจะขยายศูนย์ไตเทียมเพิ่มอีก 16 ยูนิต ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้

อีกทั้งมีการให้บริการในศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง ได้แก่ การผ่าตัดแผลเล็ก (Minimal invasive surery : MIS) ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวนเคสเข้ามารับการรักษาเพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนรายได้เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนกว่า 100% และเช่นกันในศูนย์ MRI ที่ได้เปิดให้บริการไปตั้งแต่ต้นปี 2561 มีจำนวนผู้เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 6 เคสต่อวัน จากในช่วงแรกเฉลี่ยอยู่ที่ราว 5 เคสต่อวัน

ส่วนศูนย์หัวใจอาจจะมีจำนวนเคสส่งต่อจาก รพ.ภัทรธนบุรีเข้ามาน้อยกว่าปีก่อน หากแต่บริษัทได้ทำการขยายตลาด ทำให้ได้กลุ่มลูกค้าใหม่เข้ามาชดเชย และส่วนใหญ่ที่มาจะเป็นลูกค้าเงินสด ซึ่งโดยปกติจะมีค่ารักษาเฉลี่ยต่อครั้งสูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ ทำให้เป็นไปได้ว่ารายได้จากศูนย์ดังกล่าวจะพลิกกลับมาเติบโตจากปีก่อนหน้าได้อีกครั้ง (ปัจจุบันคิดเป็นราว 1% ของรายได้ค่ารักษาทั้งหมด)

ตลอดจนการปรับขึ้นค่ายาและเวชภัณฑ์ในส่วนผู้ป่วยใน (IPD) อีกประมาณ 10% ตั้งแต่ต้นปี 2561 ในกลุ่มลูกค้าประกันสังคม คาดจะมีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มต่อเนื่อง ซึ่งคาดสิ้นปี 2561 จะอยู่ที่ 1.80 แสนราย (จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.76 แสนราย) จากปีก่อนหน้าราว 1.70 แสนราย โดยทางฝ่ายมองการปรับงวดการจ่ายประกันสังคมจะไม่กระทบต่อการดำเนินงาน ในทางตรงกันข้ามหากเป็นไปตามประเมินอาจจะพลิกกลับมาเป็น Upside ของบริษัทได้ อย่างไรก็ตาม ทางนักวิเคราะห์คาดกำไรในปีนี้จะอยู่ที่ 258 ล้านบาท เพิ่ม 11.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และคาดรายได้ค่ารักษาจะเท่ากับ 1,633 ล้านบาท สูงขึ้น 16.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 388.19 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 336.76 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 43.84 ล้านบาท หรือ 0.15 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 44.14 ล้านบาท หรือ 0.15 บาทต่อหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 780.60 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 656.09 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 109.76 ล้านบาท หรือ 0.37 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 103.37 ล้านบาท หรือ 0.34 บาทต่อหุ้น

ด้วยภาพรวมของ RJH ยังขยายตัวได้ดี ทำให้นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 33 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายสุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ 39,861,805 หุ้น 13.29%
  2. บริษัท โรงพยาบาลวิภาราม จำกัด 23,815,039 หุ้น 7.94%
  3. บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 21,220,745 หุ้น 7.07%
  4. กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว 11,217,200 หุ้น 3.74%
  5. น.ส.พิชญ์ระพี ประสิทธิ์หิรัญ 9,527,800 หุ้น 3.18%

รายชื่อกรรมการ

  1. น.ส.วิไลลักษณ์ อัญมณีรัตน์ ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
  2. นายวชิระ วุฒิกุลประพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการ
  3. นางพรทิพย์ วุฒิกุลประพันธ์ กรรมการ
  4. นางสมร ประสิทธิ์หิรัญ กรรมการ
  5. นายจรูญศักดิ์ ศรีโภชน์สมบูรณ์ กรรมการ

Back to top button