เช่าซื้อ-ลีสซิ่ง รับมือดอกขึ้นยังไง.!

กำลังนับถอยหลังว่าแบงก์ใหญ่รายไหน! จะเป็น “หน่วยกล้าตาย” ปรับขึ้นอัตรา “ดอกเบี้ยเงินกู้” หลังขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากมาได้ระยะหนึ่งแล้ว..ด้วยสัญชาตญาณธนาคาร ไม่ปล่อยให้ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากทอดยาวไปนาน โดยไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้..อย่างแน่นอน


สำนักข่าวรัชดา

กำลังนับถอยหลังว่าแบงก์ใหญ่รายไหน! จะเป็น “หน่วยกล้าตาย” ปรับขึ้นอัตรา “ดอกเบี้ยเงินกู้” หลังขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากมาได้ระยะหนึ่งแล้ว..ด้วยสัญชาตญาณธนาคาร ไม่ปล่อยให้ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากทอดยาวไปนาน โดยไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้..อย่างแน่นอน

นั่นหมายถึงภาระรายจ่ายดอกเบี้ยจากเงินฝากเพิ่มขึ้น..แต่รายได้ดอกเบี้ยเงินกู้ไม่ขยับ จึงดูไม่สมเหตุสมผลที่แบงก์จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้..!!

แต่..เมื่อแบงก์ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้..ต้องมาดูกันต่อว่ากลุ่มธุรกิจเช่าซื้อ-ธุรกิจลีสซิ่ง-ธุรกิจสินเชื่อแฟคตอริ่ง..จะได้รับประโยชน์และผลกระทบและหุ้นตัวไหน ที่ต้องเจอแจ็กพ็อตบ้าง.!

เริ่มจากกลุ่มที่ได้ประโยชน์ คือ หุ้นที่มีรายได้ดอกเบี้ยรับอัตราลอยตัวมากกว่าคงที่ และมีต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายเป็นอัตราคงที่มากกว่า นั่นคือ กลุ่มธนาคารเอง โดยเฉพาะ 4 ธนาคารใหญ่ อาทิ ธนาคารกรุงเทพฯ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย..นั่นเอง

ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนีไม่พ้นกลุ่มเช่าซื้อ-ลีสซิ่ง ด้วยโครงสร้างรายได้ดอกเบี้ยรับส่วนใหญ่เป็นอัตราคงที่กว่า 98% แต่ต้นทุนการกู้ยืมเป็นดอกเบี้ยลอยตัวสัดส่วนกว่า 36% ของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย

แต่มีเพียงบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IFS จะได้รับการยกเว้น.!? ในฐานะผู้ทำธุรกิจให้สินเชื่อแฟคตอริ่ง..ที่มีดอกเบี้ยรับเป็นอัตราลอยตัว..!

สอดส่องเจาะลึกไปดูกลุ่มเช่าซื้อ-ลีสซิ่ง จุดวัดใจจึงอยู่ที่เรื่องการบริหารส่วนต่างดอกเบี้ย (Spread) ว่าใครจะดีกว่ากัน..!?

จากประเด็นที่ว่าหุ้นบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC, บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD, บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS, บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ดูจะได้เปรียบและรับมือกับดอกเบี้ยขาขึ้นได้ดีทีเดียว

นั่นหมายถึง..อาจใช้เวลาปรับตัวไม่นาน..สุดท้ายก็บริหารจัดการได้..!!

ทว่า..หุ้นบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI และบริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ASK ถูกมองกันว่าน่าจะเสียเปรียบด้วยส่วนต่างดอกเบี้ยที่แคบกว่านั่นเอง..!!

แต่สุดท้าย..กลับมาที่คำถามแรกก่อนว่า..แบงก์ใหญ่ใครจะขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ก่อนกัน..!!?

ที่สำคัญจะขึ้นเมื่อไหร่..!??

…อิ อิ อิ….

Back to top button