AIT วางเป้ารายได้ปีนี้ 5 พันลบ. หลังตุน Backlog เพียบ! เล็งลงทุนธุรกิจใหม่เสริมแกร่ง

AIT วางเป้ารายได้ปี 62 แตะ 5 พันลบ. หลังตุน Backlog เฉียด 6 พันลบ. พร้อมแตกไลน์ธุรกิจใหม่เสริมแกร่ง


นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT เปิดเผยถึง ทิศทางธุรกิจในปี 62 บริษัทวางเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 5,000 ล้านบาท โดยจะมาจากมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ วันที่ 21 ก.พ.62 ประมาณ 5,900 ล้านบาท โดยมีโครงการขนาดใหญ่ที่บริษัทฯได้รับคำสั่งซื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ โครงการจ้างงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ และโครงการอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังมีงานที่อยู่ระหว่างรอคำสั่งซื้ออีกจำนวน 952 ล้านบาท โดยคาดว่าโครงการของภาครัฐและภาคเอกชนในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะฟื้นตัว เนื่องจากการตื่นตัวจาก Disruption ในยุค Digital 4.0 ที่ทำให้องค์กรต่างๆต้องปรับตัว หรือ Transform ธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจหลัก คือ System Integrator ผู้ออกแบบและรับเหมาวางระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างครบวงจร โดยในปีนี้ AIT ได้แบ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ชัดเจนมากขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาและเสริมสร้างทักษะเฉพาะทางแก่ทีมวิศวกรของบริษัทฯ ตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเกิดประโยชน์สูงสุด ประกอบกับการมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อนำมาต่อยอดหรือเสริมทัพให้กับธุรกิจหลักเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับบริษัทฯ

“ทิศทางผลการดำเนินงานในปีนี้ ประเมินว่าจะได้เห็นการเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยเรามุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจหลักอย่าง System Integrator พร้อมเสริมทักษะให้กับทีมวิศวกรเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า อีกทั้งบริษัทฯก็ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆเพื่อเสริมธุรกิจหลักของบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง” นายศิริพงษ์ กล่าว

ส่วนผลการดำเนินงานในปี 61 ที่ผ่านมา ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แม้ว่าจะลดลดมาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับปี 60 โดยทำรายได้จากงบเฉพาะกิจการ 4,238 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 275 ล้านบาท เนื่องจากในปีที่ผ่านมางบประมาณรายจ่ายภาครัฐได้เน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมมากกว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร ทำให้ภาพรวมการใช้งบในส่วนนี้ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังมีความล่าช้าในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทำให้ต้องมีการเลื่อนประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ออกไป ประกอบกับการแข่งขันงานที่สูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง จึงทำให้รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทฯลดลง

Back to top button