PRM บวก 3% โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ชูเป้าสูง 12.40 บ. คาดผลงานไตรมาส 2/62 สดใส

PRM บวก 3% โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ชูเป้าสูง 12.40 บ. คาดผลงานไตรมาส 2/62 สดใส โดย ณ เวลา 15.01 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 6.10 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 3.39% สูงสุดที่ระดับ 6.15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 86.43 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ณ เวลา 15.01 น. อยู่ที่ระดับ 6.10 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 3.39% สูงสุดที่ระดับ 6.15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 86.43 ล้านบาท

ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (24 พ.ค.62) แนะนำ “ซื้อ” PRM ราคาเป้าหมาย 12.40 บาท/หุ้น โดยนอกจากแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ที่อาจเอาชนะประมาณการของบล.เมย์แบงก์ได้ 10% ทะลุ 1,000 ลบ. บริษัทแสดงให้เห็นว่า แทบไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าดังที่ตลาดกังวลเกินไป แต่ในทางตรงข้าม บริษัทได้ประโยชน์อย่างมากจากกฏเกณฑ์ IMO2020 อย่างเป็นรูปธรรมแล้วซึ่งแสดงให้เห็นในกลุ่มงาน FSU ตั้งแต่ไตรมาส 1/62 ขณะที่ทิศทางกำไรในไตรมาส 2/62 คาดจะสดใส ขยายตัวทั้งรายได้ และ อัตรากำไรขั้นต้น

 

โดยเรือขนน้ำมันในประเทศมีกำหนดรับเรือแล้ว 4 ลำ (แผน 6 ลำปีนี้) โดย 2 ลำต่อใหม่เริ่มทำงานไตรมาส 2/62 ที่เหลือเริ่มไตรมาส 3/62 ทำให้ฐานกองเรือนี้จะเพิ่ม/ทดแทนเป็น 32 ลำ ด้วยเรือที่ใหญ่ขึ้นจาก 1,800-2,500 เป็น 3,000 เดทเวตตัน ทำให้รายได้จะมากขึ้นต่อเที่ยว

อีกทั้งเรือคลังน้ำมันลอยน้ำ FSU 2 ลำใหม่ ให้บริการแก่ลูกค้าแล้ว 1 ลำในเดือน พ.ค. และ อีก 1 ในเดือน มิ.ย. จะทำให้กองเรือนี้ขยายเป็น 7 ลำ บนอัตราการให้บริการเต็ม 100% ทันที โดยปัจจุบันอุปสงค์ของเรือ FSU ได้กลายเป็นมุ่งเน้นในการกักเก็บน้ำมันกำมะถันต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับกฏเกณฑ์การเดินเรือระหว่างประเทศ IMO เริ่มปีหน้า โดยปัจจุบัน 5 ใน 7 ลำ เป็นการเก็บน้ำมันเพื่อเกณฑ์นี้แล้ว และยังมีอุปสงค์จำนวนมากจากลูกค้าเนื่องจาก PRM มีชื่อเสียง และประสบการณ์สูงจากการให้บริการแก่ลูกค้าญี่ปุ่นมานานมากแล้ว

ขณะที่เรือสนับสนุนแท่นขุดเจาะ AWB FSO ยังคงทำงานเต็มที่ตั้งแต่ต้นปี 2562 เรือขนน้ำมันระหว่างประเทศ Aframax 2 ลำ ทำงานเต็มที่บนค่าระวางที่สูงขึ้นราว 18% จากปีก่อน

อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มข้างต้น คาดไตรมาส 2/62 PRM จะแสดงการขยายตัวจากไตรมาสก่อน และจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ทั้งรายได้ (จากกองเรือที่ใหญ่ขึ้น) และ อัตรากำไรขั้นต้นรวมที่เชื่อว่าจะทะลุ 29% กลับไปอยู่กรอบบน 35-42% ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองในปี 2559 ได้ เนื่องจากกลุ่มเรือ FSU ซึ่งได้เรือใหม่ 2 ลำระหว่างไตรมาสนั้น (มาพร้อมลูกค้า) มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่สุดในกลุ่มถึง 42.7%

อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงมาจากกฏระเบียบใหม่ของ IMO 2020 ทำให้อุปสงค์ในเรือ FSU ได้เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ   จากเดิมที่ ความผันผวนของความต้องการใช้เรือ FSU จะล้อไปกับการคาดการณ์ทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก ดังนั้น ความเสี่ยงโดยรวมของ PRM จึงได้ย้ายไปสู่ปริมาณการบริโภคน้ำมันในภาคใต้ของไทย และ ในตลาดโลก เป็นสำคัญ ซึ่งจะแปรผันไปตามสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ให้บริการ

Back to top button