EVER บวก 5% มั่นใจผลงานปีนี้โตก้าวกระโดด หลังทยอยรับรู้รายได้หลายโครงการ

EVER บวก 5% มั่นใจผลงานปีนี้โตก้าวกระโดด หลังทยอยรับรู้รายได้หลายโครงการ โดย ณ เวลา 15.18 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 0.46 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 4.55% สูงสุดที่ระดับ 0.47 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.44 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.96 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER ณ เวลา 15.18 น. อยู่ที่ระดับ 0.46 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 4.55% สูงสุดที่ระดับ 0.47 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.44 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.96 ล้านบาท

นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ EVER เปิดเผยว่า บริษัทฯพร้อมเดินหน้าในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดโครงการใหม่ เอเวอร์ ซิตี้ รามอินทรา-วงแหวนจตุโชติ Ever City Ramintra – Wongwaen Chatuchot มูลค่าโครงการ 630 ล้านบาท ซึ่งเป็นทาวน์โฮม ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างลงตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์“  ทาวน์โฮมที่ให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ในพื้นที่ที่คุณเลือกได้เอง สะดวกต่อการเข้าสู่ใจกลางเมือง และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ราคา  2.7 – 3.7 ล้านบาท เตรียมเปิดพรีเซลในวันที่ 29 – 30 มิถุนายน 2562

สำหรับโครงการ “รามอินทรา-วงแหวนจตุโชติ” เป็นโครงการทาวโฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน ที่มีความโดดเด่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บนเนื้อที่โครงการประมาณ  17 ไร่ ในทำเลที่มีศักยภาพ  ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนฉลองรัช (เอกมัย-รามอินทรา) ขณะที่เส้นทางรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-ลำลูกกา) และสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน เช่น  ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์, เซ็นทรัลลาดพร้าว, คริสตัลพาร์ค เป็นต้น และโรงพยาบาล สถานศึกษา

“โครงการรามอินทรา-วงแหวนจตุโชติ   เป็นโครงการที่ EVER เปิดตัวในไตรมาส 2/2562 และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม เพราะเป็นโครงการทาวน์โฮม เต็มไปด้วยความคุ้มค่าและตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัย เต็มไปด้วยความคุ้มค่า เฟอร์นิเจอร์ที่คิดและออกแบบมาอย่างลงตัว และยังเป็นโครงการที่มีพื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 110-145 ตร.ม.ต่อห้อง

ซึ่งสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ ทาวน์โฮมที่ให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ในพื้นที่ที่คุณเลือกได้เอง และโครงการนี้เป็นโครงการท้ายสุดจากแผนในการขยายโครงการแนวราบของบริษัท จากแผนการเปิดโครงการทาวน์โฮม 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาทในปีนี้” นายสวิจักร์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯเร่งในการผลักดันในการสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโต ซึ่งการขยายโครงการแนวราบ เป็นการบาลานซ์พอร์ต และยังเป็นการสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในอนาคต  อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าโน้มผลการดำเนินงานในปี 2562 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นปีที่เริ่มรับรู้รายได้จากการโอนโครงการต่างๆที่ลงทุน

ทั้งจากโครงการแนวสูงแบรนด์ เดอะโพลิแทน และโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ “มายโฮม อเวนิว” รวมถึงทาวน์โฮม ที่ทยอยเปิดตัวในไตรมาส 1 ปีนี้  รวมทั้งยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน ( Backlog ) ในมือกว่า 2,600 ล้านบาท ที่จะสนับสนุนเพิ่มเติมด้วย

Back to top button