พาราสาวะถี

อรชุน

ประเด็นการอภิปรายโดยไม่ลงมติของพรรคฝ่ายค้านปมถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนและการแถลงนโยบายรัฐบาลโดยไม่แจกแจงที่มาของงบประมาณที่จะใช้นั้น ไม่จำเป็นต้องเก็บตกหรือชี้แนะชี้นำอะไร คำชี้แจงของมือกฎหมายประจำรัฐบาลสืบทอดอำนาจฟังขึ้นหรือไม่ หรือเป็นการดึงฟ้าต่ำเพื่อปกป้องตนเองนั้น วิญญูชนทั้งหลายย่อมรับรู้กันได้เอง เมื่อฝ่ายรัฐบาลทำตัวเป็นแผ่นเสียงตกร่องเรียกร้องให้ฝ่ายค้านเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน เราก็ต้องลองไปจับจ้องงานของรัฐบาลบ้างว่าอะไรเพื่อประชาชนแล้วหรือยัง

เอาเฉพาะการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ในแง่ของการช่วยเหลือประชาชน อาการหงุดหงิดของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไประบายบนสองเวทีซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำท่วมนั้น สะท้อนให้เห็นความล่าช้า ไม่เอาไหนของหน่วยงานรัฐและรวมถึงตัวคณะรัฐบาลเอง เพราะสิ่งที่ทำให้ผู้นำจุดเดือดต่ำโมโหโกรธานั้น ถ้าบรรดากระบอกเสียงทั้งหลายเลิกสอพลอ เอาแต่ยกหางเจ้านาย แล้วหันมามองความเป็นจริงผ่านภาพหน้าสื่อก็จะรู้เองว่าอะไรคือต้นตอ

อย่าลืมว่าในขณะที่บรรดากระบอกเสียงจอมสอพลอทั้งหลาย มัวแต่ปกป้องผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ พร้อม ๆกับการทำตัวเป็นนกแก้วนกขุนทองท่องจำคำให้ฝ่ายค้านไปทำงานเพื่อประชาชนนั้น น้ำท่วมภาคอีสานหลายจังหวัด แกนนำฝ่ายค้านอย่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พร้อมคณะเดินสายไปช่วยเหลือรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ไปก่อนหน้าหลายช่วงตัวแล้ว เช่นเดียวกับ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ นักแสดงคนดังที่เริ่มเปิดบัญชีรับบริจาคในวันที่ผู้นำของพวกสอพลอไปทำกับข้าวอยู่ภาคใต้

เหล่านี้นี่ไงคือภาพแห่งความเป็นจริง ไม่ต้องเสแสร้ง สร้างภาพ เพราะความเป็นผู้แทนประชาชนนั้น ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นฝ่ายรัฐบาลเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเหลือได้ ยิ่งเป็นพวกที่ได้เข้าสู่อำนาจด้วยวิธีการที่ตัวเองวางแผนไว้ทั้งหมด ยิ่งห่างชั้นและห่างไกลนักการเมืองอาชีพ บรรดาส.ส.ทั้งหลายนั้นรู้ดีว่าในยามหน้าสิ่วหน้าขวานของประชาชนที่เป็นฐานเสียงของตัวเองนั้น คนเหล่านี้จะต้องวางตัวและช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างไร

วาทกรรมประเภทไอโอที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนต้นคิดในการตอกย้ำว่า ฝ่ายค้านห่วงแต่จะอภิปรายผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ จนไม่ยอมไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน ไม่ลองไปถามทีมงานชุดล่วงหน้าหรือแม้แต่การลงไปสัมผัสความเดือดร้อนของประชาชนโดยท่านผู้นำเอง ใคร พวกไหนที่เป็นกลุ่มแรก ๆ ที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชน เหล่านี้คือข้อเท็จจริงและคนเหล่านั้นไม่ใช่เพิ่งทำ ถ้าจำกันได้ในช่วงเผด็จการคสช. ก็นักการเมืองเหล่านี้ไม่ใช่หรือที่ถูกดำเนินคดีจากการไปช่วยเหลือประชาชนประสบภัยในพื้นที่

ด้วยข้อกล่าวหาเป็นการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง พอตัวเองมาเป็นนักการเมืองเต็มตัวกลับมาเรียกร้องให้นักการเมืองต่างฝ่ายไปช่วยเหลือประชาชน ตรงนี้มันเป็นภาพสะท้อนของวิธีคิดและการเล่นเกมทางการเมืองของพวกสืบทอดอำนาจได้เป็นอย่างดี หลังจากลงพื้นที่อุบลราชธานีไปแล้วท่านผู้นำคงหายเครียดจากโรคที่ตัวเองเป็นและคงเลิกเหวี่ยงได้แล้วกระมัง แม้จะช้ากว่าฝ่ายตรงข้ามและดาราผู้มีจิตอาสาไปหลายช่วงตัวก็ตาม แต่ก็ยังดีกว่าไม่ไปให้เห็นหน้าเอาเสียเลย

จะว่าไปสำหรับประเด็นการถวายสัตย์ฯ ไม่ครบถ้วนนั้น เป็นธรรมดาที่ฝ่ายรัฐบาลต้องการให้จบและไม่ไปขยายผลต่อ แต่เมื่อฝ่ายค้านยังคาใจก็ย่อมเป็นปกติที่ด้านหนึ่ง วันมูหะหมัดนอร์ มะทา จะรวบรวมชื่อส.ส.ไปยื่นร้องต่อป.ป.ช.เพื่อให้สอบมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ด้านหนึ่ง ปิยบุตร แสงกนกกุล ประกาศลั่นหลังจากสภาเปิดจะพิจารณายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าคำตอบของฝ่ายรัฐบาลจะออกมาอย่างไร

หนีไม่พ้นการกล่าวหาว่าฝ่ายค้านเล่นไม่เลิกและไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมอันเป็นข้อกล่าวหาแบบเดิม ๆ ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงสิ่งที่ฝ่ายค้านจะเดินกันนั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ที่สำคัญคือเป็นรัฐธรรมนูญที่ผู้นำเผด็จการตั้งองคาพยพเขียนขึ้นมากับมือ แม้ตัวเองจะทำผิดพลาดโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม และไม่ได้มีการแก้ไขใด ๆ หากจะถามว่าใครกันที่ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญโดยเคร่งครัด วันนี้ไปถามประชาชนน่าจะได้คำตอบที่ไม่ต้องคาดเดา

เทรนด์แฮชแท็กประยุทธ์ออกไปที่ทะลุพรวดขึ้นอันดับหนึ่ง ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างทวิตเตอร์ ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งจากอารมณ์ร่วมของผู้คนในสังคมกับบรรยากาศทางการเมืองที่เกิดขึ้น แน่นอนว่า ฝ่ายกุมอำนาจอาจกล่าวหาได้ว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะฝ่ายตรงข้ามพากันไปดำเนินการ ปั่นกระแส แต่ถ้ามองในมุมกลับหากเป็นความรู้สึกอันแท้จริงของประชาชนส่วนใหญ่ ก็สมควรที่ต้องย้อนกลับไปส่องกระจกพิจารณาตัวเองเหมือนกัน ที่พล่ามอยู่ทุกวันทำเพื่อประชาชน ให้ทุกคนมีความสุขนั้นเป็นอย่างที่ว่าหรือไม่

จะว่าไปนับตั้งแต่การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 คนที่มีความสุขอย่างยิ่งน่าจะเป็นผู้นำเผด็จการและบรรดาผู้ที่ได้รับอานิสงส์จากการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งทั้งหลาย ขณะเดียวกันความสุขดังว่าก็เจือจานมาจนถึงวันที่สืบทอดอำนาจเพราะสารพัดปัญหาที่มีต่อตัวผู้นำผู้เหมือนว่าจะถูกปัดเป่าให้พ้นภัยได้อยู่ตลอดเวลา คาถาของเขาดีจริง ม.44 ที่ชี้นิ้วสั่งการดลบันดาลอะไรก็ได้ มันแสดงอานุภาพปกป้องคุ้มครองมาถึงปัจจุบันนี้ด้วย โดยที่ใครก็สัมผัสและรับรู้ได้ผลที่ว่านั้นเป็นอย่างไร

เจตนาให้ช่างภาพจับภาพได้หรือไม่ ยังเป็นเครื่องหมายคำถามและคงรู้คำตอบว่าจะออกมาแบบใด แต่สิ่งที่ผู้คนสงสัยและอยากได้คำตอบจากผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจคือ เอกสาร“โครงข่ายขบวนการทำลายประเทศ”บนโต๊ะของท่านผู้นำในวันที่ไปฟังส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายในสภานั้น ถูกนำไปขยายผลหรือดำเนินการต่อแบบไหน อย่างไรหรือไม่ เพราะถ้ามีขบวนการดังกล่าวจริงแล้วฝ่ายความมั่นคงไม่ดำเนินการใด ๆ จะถือว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นี่คือภัยต่อความมั่นคงของประเทศอย่างแท้จริง

หรือจะอ้างว่าเป็นเอกสารลับที่ไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้ แต่เมื่อสถานะของเอกสารมันเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้แล้ว ฝ่ายกุมอำนาจก็ต้องอธิบายว่ามันมีขบวนการดังกล่าวจริงหรือไม่ แล้วมีพวกไหนอย่างไรบ้าง เป็นภัยร้ายแรงระดับไหน เพื่อที่ประชาชนจะได้ช่วยกันสอดส่องป้องกัน ไม่ใช่รอให้เกิดเหตุเหมือนระเบิดกลางกรุงแล้วค่อยมาบอกว่าให้ช่วยกันดูแล หรือถ้าแค่เอามาขู่พวกอภิปรายก็บอกเสียให้ชัด ๆ คนส่วนใหญ่จะได้ไม่ตื่นตระหนกตกใจ