สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ต.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ต.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้อาจประสบความล้มเหลว หลังจากสหรัฐประกาศระงับการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกดขี่ชาวมุสลิมในมณฑลซินเจียง โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงเมื่อคืนนี้ว่า เฟดจะเริ่มขยายงบดุลบัญชี ผ่านการซื้อพันธบัตรระยะสั้นของรัฐบาลสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,164.04 จุด ร่วงลง 313.98 จุด หรือ -1.19% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,893.06 จุด ลดลง 45.73 จุด ลดลง -1.56% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,823.78 จุด ลดลง 132.52 จุด หรือ -1.67%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นจากความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และความไม่แน่นอนที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบมีข้อตกลง นอกจากนี้ รายงานข่าวที่น่าผิดหวังของภาคธุรกิจ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 1.10% ปิดที่ 378.71 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,456.62 จุด ลดลง 64.99 จุด หรือ -1.18%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,970.20 จุด ลดลง 127.23 จุด หรือ -1.05% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,143.15 จุด ลดลง 54.73 จุด หรือ -0.76%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นจากความวิตกเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีข้อตกลง (no-deal Brexit) หลังแหล่งข่าวจากสำนักคณะรัฐมนตรีอังกฤษระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่อังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) จะสามารถบรรลุข้อตกลง Brexit

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,143.15 จุด ลดลง 54.73 จุด หรือ -0.76%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้รับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกปีนี้และปีหน้า

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 52.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 58.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ ขณะเดียวกันนักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ก่อนการเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,503.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.91% ปิดที่ 17.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 890.1 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,650.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

เงินปอนด์ยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) หลังจากสื่อรายงานว่า การเจรจาข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ระหว่างนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และผู้นำของสหภาพยุโรป (EU) มีแนวโน้มที่จะประสบความล้มเหลว

เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2217 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2299 ดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.0954 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0973 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6730 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6732 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.12 เยน จากระดับ 107.27 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9938 ฟรังก์ จากระดับ 0.9946 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3318 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3309 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button