SIRI ผุด 10 โครงการใหม่ 1.48 หมื่นลบ. รับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ หวังโกยยอดขายโตเข้าเป้า

SIRI ผุด 10 โครงการใหม่ 1.48 หมื่นลบ. รับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ หวังโกยยอดขายโตเข้าเป้า


นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ไตรมาสสุดท้ายของปี 62 ยังนับเป็นไตรมาสที่สำคัญของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากการที่ลูกค้าจะมองหาและตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ นอกจากนี้ จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐที่ประกาศลดค่าโอน ค่าจดจำนอง จนถึงสิ้นปี 63 คาดว่าจะช่วยกระตุ้นความต้องการที่อยู่อาศัยให้มีความคึกคักและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในช่วงปลายปีนี้ได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในช่วงไตรมาส 4 รวมอีก 10 โครงการ รวมมูลค่า 14,800 ล้านบาท เพื่อตอบรับเรียล ดีมานต์ รวมถึงบริษัทยังมีพรีเซลล์ แบ็กล็อก อีกกว่า 59,000 ล้านบาท ที่จะรองรับการเติบโตระยะยาวเป็นระยะเวลาอีก 3 ปี

ขณะที่ SIRI ชี้แจงผลประกอบการไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิ 451.01 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.032 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 649.47 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.044 บาท

นายวันจักร์ กล่าวอีกว่า ผลประกอบการในรอบ 9 เดือนของปี 62 บริษัทมีรายได้รวมกว่า 16,900 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,113 ล้านบาท

ทั้งนี้ งวดไตรมาส 3/62 มีรายได้รวมกว่า 6,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน 40% โดยรายได้จากการขายเติบโตขึ้นถึง 61% จากการทยอยโอนส่งมอบคอนโดมิเนียม อาทิ โครงการ 98 Wireless, ทากะ เฮาส์ และ ดีคอนโด หาดใหญ่ รวมถึงการโอนที่อยู่อาศัยคุณภาพให้แก่ลูกค้าตามแผนงานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 424 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเกือบ 50%

สำหรับกลยุทธ์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจโดยการรุกตลาดแนวราบ ซึ่งเป็นตลาดที่มาจากเรียล ดีมานต์ ลูกค้ามีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง SIRI จึงสร้างความแตกต่างด้วยกลยุทธ์การพัฒนาโครงการที่ครอบคลุมแบรนด์แนวราบ ตอบโจทย์ลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ พร้อมสร้างความแข็งแกร่งและจุดเด่นในแต่ละแบรนด์ที่ชัดเจน แตกต่างเหนือคู่แข่ง ส่งผลให้ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ บริษัทยังมีผลงานการโอนที่โดดเด่นทั้งในแนวราบและแนวสูง โดยยอดโอนโครงการแนวราบเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน 37% ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมยอดโอนพุ่งโตกว่า 104%

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมโอนคอนโดมิเนียมอีก 6 โครงการในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ได้แก่ ลา กาซิตา คอนโดฯ ตากอากาศพร้อมอยู่ สไตล์สแปนิช กลางหัวหิน, คอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือกับ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ในโครงการ เดอะ เบส สุขุมวิท 50 รวมถึงคอนโดภายใต้ความร่วมมือ บีทีเอส-แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ใน 4 โครงการรวด บนทำเลศักยภาพติดแนวรถไฟฟ้ารอบกรุงเทพฯ 4 โครงการ

ได้แก่ ‘เดอะ เบส เพชรเกษม คอนโดใจกลางย่านชุมชนของเพชรเกษม-บางแคที่ตอบโจทย์เรียลดีมานด์ที่ซื้ออยู่เอง,  ‘เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 คอนโดไฮไรส์บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถีเพียง 250 เมตร,  ‘เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ ในทำเลเจาะกลุ่มผู้ต้องการอยู่อาศัยใกล้สถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย และโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนบนที่สุดของทำเลใจกลางทองหล่อ ได้แก่ ‘คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค

ด้านผลงานที่สำคัญในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา SIRI ยังได้เข้าซื้อเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมรายหนึ่งใน Standard International Holdings, LLC. หรือ SIH บริษัทแม่ของโรงแรม The Standard แบรนด์โรงแรมอเมริกันที่โด่งดังไปด้วยกลุ่มลูกค้าเปี่ยมไปด้วยรสนิยม การออกแบบล้ำสมัย และการมอบการบริการที่เหนือมาตรฐาน โดยถือหุ้นเพิ่มจากเดิม 37.26% เป็น 60.37% ส่งผลให้ SIH เป็นบริษัทย่อยทางตรงของ Sansiri (US), Inc. และเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทฯ โดยปริยาย

ทั้งนี้ ในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปีเต็มหลังจากที่ SIRI ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่  Standard International ได้ประกาศแผนการขยายธุรกิจสู่ระดับนานาชาติโดยการเปิดโรงแรมแห่งใหม่ทั่วโลก พร้อมขยายสู่ 25 โรงแรมภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยได้เปิดแห่งแรกนอกสหรัฐฯ ที่ย่านคิงส์ครอสในลอนดอนเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด ในวันที่ 1 พ.ย.62 The Standard ได้เปิดตัว The Standard, Huruvalhi Maldives ซึ่งเป็นโรงแรม The Standard แห่งแรกในเอเชีย และเปลี่ยนภาพเดิมๆ ของมัลดีฟส์ เพื่อพร้อมต้อนรับกลุ่มเพื่อน ครอบครัว คู่รักที่มองหาความแตกต่าง รวมถึงคนโสดที่อยากจะมาเติมพลังให้กับชีวิตที่มัลดีฟท์ นอกจากนี้ยังพร้อมเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในเอเชีย รวมถึงประเทศไทยในเร็วๆ นี้อีกด้วย

Back to top button