‘อิหร่าน’ …โฟกัสสำคัญของปีนี้

ความสนใจของนักลงทุนส่วนใหญ่ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่การต่อสู้ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ แต่เนื่องจากทั้งสองประเทศกำลังจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสหนึ่งกันในคืนวันนี้  ซึ่งหากไม่มีอะไรพลิกล็อก หุ้นก็คงทะยานกันถ้วนหน้า แล้วหลังจากนั้นนักลงทุนคงจะเลิกโฟกัสเรื่องของจีนและสหรัฐฯ ไปสักระยะ ผู้เชี่ยวชาญด้านความเสี่ยงทางการเมืองเชื่อว่า ปัจจัยต่อไปที่ตลาดจะให้ความสนใจก็คือ “ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน”


พลวัตปี 2020 : ฐปนี แก้วแดง(แทน)

ความสนใจของนักลงทุนส่วนใหญ่ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่การต่อสู้ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ แต่เนื่องจากทั้งสองประเทศกำลังจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสหนึ่งกันในคืนวันนี้  ซึ่งหากไม่มีอะไรพลิกล็อก หุ้นก็คงทะยานกันถ้วนหน้า แล้วหลังจากนั้นนักลงทุนคงจะเลิกโฟกัสเรื่องของจีนและสหรัฐฯ ไปสักระยะ ผู้เชี่ยวชาญด้านความเสี่ยงทางการเมืองเชื่อว่า ปัจจัยต่อไปที่ตลาดจะให้ความสนใจก็คือ “ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน”

แม้ว่าในขณะนี้ สถานการณ์ระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ ได้ลดดีกรีความร้อนแรงลงแล้ว หลังจากที่สหรัฐฯ ได้ใช้โดรนโจมตีนายพลกัสเซ็ม โซไลมานี นายทหารคนสำคัญของอิหร่าน และอิหร่านตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธกว่า 10 ลูกใส่ฐานทัพของสหรัฐฯ และพันธมิตรในอิรัก แต่ที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมืองคาดการณ์ว่า “อิหร่าน” กำลังจะเป็นปัญหาที่สำคัญในปีนี้ มากกว่าปัญหาจีนและสหรัฐฯ

อลาสแตร์ นิวตัน  ผู้อำนวยการบริษัท อลาวัน บิสิเนส แอดไวซอรี่ ซึ่งเป็นอดีตนักการทูตของอังกฤษ คาดการณ์ว่า จะมีการตอบโต้จากอิหร่านมากขึ้นในปีนี้  ส่วนผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ ได้คาดการณ์ถึงการเคลื่อนไหวในอนาคตของอิหร่านว่า อาจมีการรุกรานจากกลุ่มตัวแทนของอิหร่านในตะวันออกกลางและการโจมตีทางไซเบอร์

ความสัมพันธ์ที่เลวร้ายอยู่แล้วระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านกำลังเริ่มจะเลวร้ายมากขึ้น และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่สองฝ่ายจะหันหา “การทูต” เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติได้ชี้ว่ามาตรการลงโทษและการประท้วงในอิหร่านได้ทำให้อิหร่าน “สำลัก” และจะบีบให้อิหร่านมาเจรจา แต่ทรัมป์บอกว่า ความจริงแล้วเขาไม่แคร์ว่าอิหร่านจะเจรจาหรือไม่  พร้อมทั้งประกาศชัดว่า อิหร่านจะต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์และเตือนว่าอย่าสังหารผู้ประท้วง

เมื่อดูท่าทีจากผู้นำอิหร่านก็ไม่ได้ต้องการเจรจากับทรัมป์เช่นกัน และผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองกล่าวว่า อิหร่านกำลังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทรัมป์จะพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีนี้

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า อิหร่านยังคงเป็น “ตัวคุกคามที่สำคัญ” ในตะวันออกกลาง แม้ว่าในขณะนี้ผู้นำอิหร่านต้องเผชิญทั้งศึกในและนอกบ้าน โดยเฉพาะศึกในบ้าน ซึ่งประชาชนกำลังประท้วงอย่างรุนแรง หลังจากที่ทหารอิหร่านยอมรับว่า ได้ยิงเครื่องบินโดยสารของสายการบินยูเครนตกลงโดยไม่ตั้งใจ

มีการวิเคราะห์กันว่า การยิงเครื่องบินโดยสารของสายการบินยูเครน อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามและอาจปูทางให้คนรุ่นใหม่ที่ได้รับการฝึกฝนโดยนายพลโซไลมานีขึ้นมามีอำนาจ และอาจทำให้กองกำลัง “คุดส์” ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษของอิหร่านในต่างประเทศ กลับมามีอิทธิพลอีกครั้ง

ในเวลานี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งยากสำหรับผู้นำอิหร่าน   รัฐบาลต่างชาติที่ประชาชนได้เสียชีวิตในเหตุการณ์เครื่องบินตก ได้เรียกร้องให้อิหร่านสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความโปร่งใส  ให้ส่งศพผู้เสียชีวิตกลับประเทศ และชดใช้ให้เหยื่อและดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจว่าจะไม่เกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้อีกในอนาคต

มีการมองกันว่า การยิงเครื่องบินตกไม่น่าจะส่งผลให้สถานการณ์ระหว่างประเทศลุกลามบายปลาย แต่อาจจะทำให้อิหร่านมีโอกาสปลดชนวนความตึงเครียด ซึ่งได้ร้อนระอุในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี โศกนาฏกรรมเครื่องบินตก  อาจจะมีผลกระทบต่อภายในประเทศมากกว่า

เพียงไม่กี่วันก่อนที่เครื่องบินจะตก ชาวอิหร่านได้แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนและประชาชนหลายล้านคนได้ออกมาตามท้องถนนเพื่อไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของนายพลโซไลมานี พร้อมทั้งประณามและก่นด่าทรัมป์ แต่การยิงเครื่องบินยูเครนตกและปฏิเสธความรับผิดชอบในตอนแรก แล้วมายอมรับในเวลาต่อมา ได้ทำให้เกิดความไม่สงบในประเทศอีกครั้งและมีความรุนแรงมากขึ้น

จนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา ยังคงมีการประท้วงผู้นำศาสนาเป็นวันที่สาม  แม้ว่ายากที่คนภายนอกจะได้เห็นภาพการประท้วงทั้งหมดเพราะมีการจำกัดการรายงานของสื่อ แต่วิดีโอที่ลงในโลกอินเทอร์เน็ตชี้ให้เห็นว่า มีผู้ประท้วงเป็นจำนวนหลายพันคนในเมืองหลวงและในเมืองอิสฟาฮาน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศ นอกจากนี้ยังมีการเผชิญหน้าระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจ

เชื่อกันว่าอิหร่านจะต้องกวาดล้างผู้ประท้วงแน่นอนหากรู้สึกว่าผู้ปกครองกำลังถูกคุกคามอย่างรุนแรงเนื่องจากผู้ปกครองชุดปัจจุบันมีประวัติในการสังหารผู้ประท้วงอย่างเหี้ยมโหด

อิหร่านเพิ่งเกิดความไม่สงบในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเมื่อรัฐบาลอนุมัติให้ขึ้นราคาเชื้อเพลิง  ประชาชนได้ออกมาประท้วงทั่วประเทศและส่งผลให้มีการปราบปรามและสังหารประชาชนไปอย่างน้อย 300 คน

การประท้วงในครั้งนี้ถือเป็นพัฒนาการล่าสุดของหนึ่งในความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงมากสุดระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และเตหะรานนับตั้งแต่มีการปฏิวัติอิสลามเมื่อปี พ.ศ. 2522

วิธีการที่รัฐบาลอิหร่านจัดการกับผลกระทบจากเหตุการณ์เครื่องบินยูเครนตก น่าจะมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อการเมืองในประเทศและการเมืองระหว่างประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย  และอาจเป็นช่วงเวลาสำคัญมากสำหรับผู้นำอิหร่านว่าจะตัดสินใจเดินไปทางใด และการตัดสินใจใด ๆ ของอิหร่านย่อมมีผลต่อตลาดทั่วโลกอย่างแน่นอน

Back to top button