YGG วิ่งสู้ฟัดโควิด.!?

เป็นหุ้นน้องใหม่ที่ถือฤกษ์เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อช่วงต้นปี (7 ม.ค.63) สำหรับบริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ซึ่งเป็นจังหวะที่ไวรัสมรณะโควิดเริ่มออกอาละวาดพอดิบพอดี...


สำนักข่าวรัชดา

เป็นหุ้นน้องใหม่ที่ถือฤกษ์เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อช่วงต้นปี (7 ม.ค.63) สำหรับบริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ซึ่งเป็นจังหวะที่ไวรัสมรณะโควิดเริ่มออกอาละวาดพอดิบพอดี…

แต่ดูเหมือน YGG เป็นหุ้นเพียงไม่กี่ตัวที่มีภูมิต้านทานดี..ไม่ติดหวัดโควิด ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่พากันติดโควิดกันงอมแงม…

ดูได้จากผลงานไตรมาสแรกที่โชว์กำไรสุทธิ 13.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.96%  จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 7.31 ล้านบาท และมีรายได้รวม 57.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.03% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 45.77 ล้านบาท

เรียกว่าเติบโตทั้งรายได้และกำไร…

YGG เป็นผู้ผลิตหนัง เกม แอนิเมชั่น และ CG ต่าง ๆ ที่รับงานระดับโลก โดยแบ่งสัดส่วนรายได้ลูกค้าในประเทศ 33% และต่างประเทศ 67% ในจำนวนนี้มีลูกค้าอย่าง Netflix รวมอยู่ด้วย

ทำให้หุ้นหนัง เกมตัวนี้ ชื่อชั้นไม่ธรรมดา ซึ่งไม่เพียงรอดจากการติดหวัด…แต่กลับได้รับประโยชน์จากโควิดจากมาตรการล็อกดาวน์ และนโยบาย Work From Home ที่หนุนให้คนหันมาดูหนัง เล่นเกมกันมากขึ้น ทำให้ YGG มีงานวิ่งชนต่อเนื่อง

นี่ก็ได้ข่าวว่า อยู่ระหว่างเจรจาร่วมสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นระดับโลก และเจรจารับงานของ Netflix ราว 2-3 เรื่อง คาดจะเห็นความชัดเจนช่วงปลายปีนี้

นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดตัวเกม Home Sweet Home Survival Game เวอร์ชั่นบน PC และบนมือถือ ในช่วงไตรมาส 3 และเตรียมให้บริการ Visual Production บริการรูปแบบใหม่ คาดจะได้รับการตอบรับที่ดีจาก Production House เข้ามาใช้บริการ

ไม่นับรวมงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ราว 110.5 ล้านบาท แบ่งเป็นงานแอนิเมชั่น 75.9%, Visual Effect 19.4% และ เกม 4.7% ที่จะรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลังต่อเนื่องไปถึงปี 64

แหม๊…ดูแนวโน้มแล้วงานคงล้นมือเลยนะเนี่ย

อย่างนี้ต้องยกตำแหน่งหุ้นเล็กพริกขี้หนูที่วิ่งฝ่าโควิดได้ไปครองแล้วล่ะ..!!

หันไปดูมูลค่าตลาดรวมของแอนิเมชั่น และ Visual Effect ประเมินกันว่า จะเติบโต 9% ภายในปี 63-67 ส่วนมูลค่าตลาดเกมคาดว่าจะอยู่ที่ 196 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และน่าจะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 9% จนถึงปี 67 และในประเทศไทยคาดว่าจะอยู่ที่ 22,000 ล้านบาท เติบโต 13% จากปีก่อน

ขณะที่ผู้บริหาร YGG คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย 15-20% จากปีก่อน

จากปัจจัยข้างต้น YGG จึงถูกมองว่าจะมีอนาคตที่สดใสซาบซ่า…โดยเฉพาะงบไตรมาส 2 จะออกมาเริ่ดหรู..!!

ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมีแรงเก็งกำไรในหุ้น YGG กันคึกคัก โดยรอบ 1 สัปดาห์ราคาปรับขึ้นไปแล้ว 171.08% รอบ 1 เดือนปรับขึ้น 176.64% และรอบ 3 เดือนปรับขึ้น 255.26%

โอ้วววแม่เจ้า…อะไรจะร้อนแรงเบอร์นั้น

โอเค…ก็มีปัจจัยรองรับที่ดี แต่คำถาม คือ ราคาวิ่งแรงงงค์นำปัจจัยพื้นฐานไปหรือเปล่า..? อันนี้น่าคิด…

นี่ถ้าพลาดท่าสะดุดขาตัวเอง…คงดูไม่จืดเลยนะเนี่ย

ดังนั้น ใครที่เข้ามาเก็งกำไรหุ้น YGG ช่วงนี้ ต้องเผื่อใจไว้บ้างนะ

ระวังจะโดนขวิดโดยไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ด้วยนะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button