DOD ชักเริ่มดูดี..!?

ช่วงแรก ๆ ที่เข้าเทรดในตลาด mai กลางปี 2561 (20 มิ.ย.) หุ้นบริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD กลายเป็นหุ้นที่ร้อนแรง มีการเก็งกำไรกันคึกคัก


สำนักข่าวรัชดา

ช่วงแรก ๆ ที่เข้าเทรดในตลาด mai กลางปี 2561 (20 มิ.ย.) หุ้นบริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD กลายเป็นหุ้นที่ร้อนแรง มีการเก็งกำไรกันคึกคัก

เพราะถูกคาดหวังว่าจะทำผลงานโตติดปีก…ในฐานะเป็นผู้รับจ้างผลิต (OEM) ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมรายใหญ่ มีลูกค้าเป็นแบรนด์ดังมากมาย และมีแบรนด์ของบริษัทเอง ภายใต้ตราสินค้า “Dai a to” (ได เอ โตะ)

แต่ช่วงหลัง ๆ มาชักเงียบ อาจเป็นเพราะผลประกอบการที่ไม่เข้าเป้า…เลยทำให้เสน่ห์ของหุ้น DOD หายไป ส่งผลให้นักลงทุนพร้อมใจกันเทหุ้น DOD อย่างไร้เยื่อใย

จะว่าไปในแง่ปัจจัยพื้นฐาน DOD ก็ดูดีขึ้น…จากเดิมลูกค้าหลักจำกัดแค่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม แต่หลักคิดของ DOD มองว่าลูกค้าต้องการความสวยงามด้วย ช่วงปลายปี 2561 เลยไปซื้อกิจการบริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่ จำกัด (PCCA) โรงงานผู้ผลิตเครื่องสำอางและสกินแคร์ ในรูปแบบรับจ้างผลิต (OEM) แบบครบวงจร

ทำให้ DOD มีผลิตภัณฑ์ที่ครบครันทั้งภายใน (กลุ่มอาหารเสริม) และภายนอก (กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์)

โอเค…ช่วงรอยต่อ ก็ต้องบันทึกตัวเลขค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างการผลิต ปรับโครงสร้างพนักงาน รวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้ เลยทำให้งบ DOD ในช่วงที่ผ่านมาดูไม่ดีเอาซะเลย…

ทุกคนก็ตั้งตารอคอยกับโมเดลใหม่ที่จะทำให้ DOD ดูดีขึ้น…กับหลักคิดที่ว่า ขายได้ทั้งภายในและภายนอก

สุดท้ายเห็นผลไตรมาส 2/2563 เริ่มดูดีขึ้น…แม้สถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมย่ำแย่ จากการโดนพิษโควิดขวิดไปเต็ม ๆ แต่ DOD กลับโชว์กำไรสุทธิ 75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 329.92% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 17 ล้านบาท

ก็เป็นไปได้ว่า ท่ามกลางโรคระบาดคนต้องการอาหารเสริมเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งเรื่องความสวยความงาม…

จึงทำให้ยอดขายของ DOD เพิ่มขึ้น 238% อยู่ที่ 430 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจอาหารเสริม 234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107.48% รายได้จากธุรกิจเครื่องสำอาง 133 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 280.08% และรายได้จากธุรกิจเครือข่าย 71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,080.07%

เรียกว่าดูดีทุกเซกเมนต์…

สำหรับกำไรขั้นต้นก็ถือว่าทำได้ดี อยู่ที่ 181 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156.69% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 42.05%

ส่วนขาของต้นทุน…แม้เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นต้นทุนการขายที่เพิ่มขึ้น 339.98% อยู่ที่ 249 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขาย เพิ่มขึ้น 573.33% อยู่ที่ 57.30 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบริหาร เพิ่มขึ้น 43.67% อยู่ที่ 50.63 ล้านบาท ก็เป็นไปตามยอดขายที่มากขึ้น ประกอบกับรุกไปทำธุรกิจเครือข่าย ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น

ขณะที่ครึ่งปีแรก DOD ตุนกำไรสุทธิไว้แล้ว 103 ล้านบาท มากกว่าทั้งปี 2562 ที่ทำได้แค่ 86 ล้านบาทเท่านั้น

ทำให้งบปีนี้น่าจะสดใสอยู่นะ…

นี่ไม่รวมปัจจัยบวกกรณีครม.ปลดล็อกกัญชาเสรี ที่ขยายวงให้ผู้ป่วยและหมอชาวบ้านมีไว้ครอบครองได้ คาดรับออเดอร์ทะลัก เนื่องจาก DOD มีโรงงานที่มีความพร้อมด้านองค์ความรู้และพัฒนาต่อยอดกัญชาทางการแพทย์อยู่แล้ว

นับเป็นสัญญาณที่ดีของหุ้น DOD

ภาวนาว่าจะไม่ดีแตกซะก่อนนะ…ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ตัวใครตัวมันละกัน

…อิ อิ อิ…

Back to top button