TEAMG แย้มครึ่งปีหลังลุ้นกวาดงานใหม่ 1 พันลบ. ดันแบ็กล็อกสิ้นปีแตะ 4 พันลบ.

TEAMG แย้มครึ่งปีหลังลุ้นกวาดงานใหม่ 1 พันลบ. ดันแบ็กล็อกสิ้นปีแตะ 4 พันลบ.


นายอภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายจะได้งานใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ราว 500-1,000 ล้านบาท จากงานที่อยู่ระหว่างการติดตาม 66 โครงการ เพื่อเติมปริมาณงานในมือ (Backlog) ให้สูงขึ้นเป็น 4 พันล้านบาทในช่วงสิ้นปีนี้ และจะพยายามรักษาระดับ backlog ดังกล่าวไว้อย่างต่อเนื่องในปี 64 เพื่อรองรับการสร้างรายได้ในอนาคต

อนึ่ง ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้บริษัทได้รับงานใหม่เข้ามา 112 โครงการ เป็นโครงการของภาครัฐ 18 โครงการ เอกชน 67 โครงการ ต่างประเทศ 13 โครงการ และงานเกี่ยวเนื่อง 14 โครงการ

สำหรับงานที่อยู่ระหว่างการติดตามทั้งภาครัฐ เอกชน และต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสการได้รับงานด้านวิศวกรที่ปรึกษาโครงการและงานในรูปแบบอื่นๆ เข้ามานั้น ได้แก่ โครงการรถไฟสายต่าง ๆ โดยเฉพาะรถไฟทางคู่เฟส 2, โครงการภายใต้เขตพัฒนาภาคตะวันออก (EEC) เช่น สนามบินอู่ตะเภา, โครงการด้านพลังงาน เช่น เขื่อนพลังน้ำในสปป.ลาว, โครงการขยายกำลังการผลิตน้ำประปาของการประปานครหลวง (กปน.)

รวมทั้งโครงการในส่วนของธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่บริษัทพยายามจะมุ่งเน้นขยายไปในด้าน ขนส่ง พลังงานทดแทน บริหารจัดการน้ำ บำบัดน้ำเสีย อาคารและโครงสร้างพื้นฐาน สมาร์ทซิตี้ ดิจิทัล รวมถึง AI และ IoT โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีงานในบริการเกี่ยวเนื่อง 1-2 โครงการมีข้อสรุปออกมา

โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/63 บริษัทมี backlog ราว 3,400 ล้านบาท โดยมีโครงการทั้งหมดที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 331 โครงการ แบ่งเป็นโครงการภาครัฐ 89 โครงการ เอกชน 174 โครงการ ต่างประเทศ 51 โครงการ และงานบริการเกี่ยวเนื่อง 17 โครงการ ซึ่งอยู่ในระดับที่บริษัทมีความสามารถดำเนินการได้ โดยโครงการส่วนใหญ่จะส่งมอบงานให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี

นายอภิชาติ กล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าครึ่งปีหลังทิศทางธุรกิจจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ทำให้บริษัทสามารถกลับมาส่งคนงานไปทำงานต่างประเทศได้แล้ว แม้ว่าอาจจะต้องเสียเวลากักตัวบ้าง แต่ก็ดีกว่าช่วงไตรมาส 2/63 ที่ไม่สามารถส่งไปได้เลย ดังนั้น ในช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบเลย หลังไตรมาส 2/63 ได้รับผลกระทบบ้างแต่น้อยกว่าที่คาดไว้

ส่วนงานภาคเอกชนนั้น ช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดพอสมควร เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ต้องเลื่อนออกไปจากไตรมาส 2/63 โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ แต่ขณะนี้ได้รับสัญญาณที่ดีว่าจะกลับมาดำเนินการได้เร็วกว่าที่เคยคาดไว้ เพราะงานส่วนใหญ่ของคอนโดมิเนียมและอสังหาฯ ประเภทอื่นๆ  ขึ้นกับยอดจองที่ขณะนี้มีสัญญาณที่ดีขึ้น

Back to top button