SIS แนวโน้มรายได้ปี 63 โดดเด่น

SIS เป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งสินค้าไอทีรายรายใหญ่ของไทย ทำหน้าที่เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าไอทีที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ผลิตสินค้าชั้นนำของโลกกว่า 70 ราย


คุณค่าบริษัท

กระแสความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่คาดจะยังเป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมไอทีในแง่ของการลงทุนใช้จ่ายในภาคธุรกิจแล้ว พร้อมผสมโรงด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเร่งที่ส่งผลให้สังคมไทยมีการปรับตัวสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเร็วขึ้น

ถือเป็นผลบวกต่อบริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SIS ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งสินค้าไอทีรายรายใหญ่ของไทย โดยทำหน้าที่เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าไอทีที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ผลิตสินค้าชั้นนำของโลกกว่า 70 รายในการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการในประเทศไทยมากกว่า 6,000 ราย ซึ่งปัจจุบันบริษัทจัดโครงสร้างรายได้ของบริษัทออกเป็นหน่วยธุรกิจใหญ่ 4 หน่วย ได้แก่ สินค้าเชิงพาณิชย์ สินค้าสำหรับผู้บริโภค สินค้ามูลค่าเพิ่ม และสินค้าโทรศัพท์ บวกด้วยส่วนงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยธุรกิจข้างต้น

ทั้งนี้ ส่วนแบ่งการตลาดของ SIS ที่สูงและติดอยู่ในลำดับท็อป 3 นั้นได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการพัฒนาและขยายธุรกิจของบริษัทที่มีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น 1.การจัดหาสินค้าที่มีคุณภาพสูง มีเทคโนโลยีที่ดี และราคาเหมาะสมเข้ามาจำหน่าย โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติมอีก 3 ราย คือ Xiaomi, Uniview และ Maxhub 2. การมีเครือข่ายลูกค้าที่กว้างขวางและครอบคลุมทั้งแบบค้าปลีกที่ขายให้กับการซื้อใช้ในครัวเรือน และแบบที่ขายเข้าองค์กรที่ซื้อใช้ในธุรกิจ และ 3.การนำโปรแกมการจัดการทรัพยากร (ERP) ที่มีความสามารถสูงมาใช้ในการบริหารงานพร้อมทั้งมีการพัฒนาและปรับปรุงระบบงานเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

จากปัจจัยข้างต้นทำให้ บล.ฟิลลิป คาดผลการดำเนินงานปี 2563 ของ SIS เติบโตแตะ 616 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลังได้แรงหนุนจากรายได้จากการขายและให้บริการรวม คาดเติบโต 15.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน นำโดยส่วนงานสินค้าโทรศัพท์ที่คาดรายได้จะโตเด่น หลังบริษัทได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ายี่ห้อ Xiaomi ในช่วงไตรมาส 4/2562

ขณะที่ส่วนงานที่เหลือคาดเห็นฟื้นตัวในครึ่งหลังของปี 2563 หลังครึ่งแรกปี 2563 ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึงแรงบวกจากมาตรการลดหย่อนภาษี ได้แก่ โครงการ “ช้อปดีมีคืน” ประกอบกับอัตรากำไรกลับมาปรับตัวดีขึ้นในครึ่งแรกของปี 2563 ทั้งอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรจากการดำเนินงาน และจากแนวโน้มอุตสาหกรรมไอทีที่คาดยังเห็นการเติบโตต่อเนื่อง แล้วคาดว่าจะยังหนุนการเติบโตต่ออีกในช่วง 2 ปีข้างหน้าเฉลี่ยปีละ 5.0% (บนสมมติฐานการคาดการณ์ที่ระมัดระวัง)

ดังนั้น ด้วยแนวโน้มผลดำเนินงานและความสามารถในการทำกำไรของ SIS คาดยังอยู่ในช่วงขาขึ้นจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่หนุนการลงทุนด้านไอทีของภาคธุรกิจ จึงมีคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐานปี 2564 ที่ 22.60 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. SIS TECHNOLOGIES (THAILAND) PTE. LTD. 165,616,595 หุ้น 47.29%
  2. บริษัท ไทย อัลลิแอนซ์ จำกัด 58,893,875 หุ้น 16.82%
  3. นายชวลิต จรัสโชติพินิต 8,000,000 หุ้น 2.28%
  4. นายบุญไชย ตันชัชวาล 6,255,400 หุ้น 1.79%
  5. นายชัยรัตน์ ตันชัชวาล 4,933,100 หุ้น 1.41%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายลิม เคีย เม้ง ประธานกรรมการ
  2. นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
  3. นายฮวี ไฮ ลิม กรรมการ
  4. นางลิม ฮวี นอย กรรมการ
  5. นายเคีย ฮอง ลิม กรรมการ

Back to top button