หุ้นแบงก์ขึ้นยกแผง! รับธปท.ไฟเขียวจ่ายปันผล TMB-KKP นำทีมบวกคึก

หุ้นแบงก์ขึ้นยกแผง! รับธปท.ไฟเขียวจ่ายปันผล TMB-KKP นำทีมบวกคึก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(13พ.ย.63) ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์เขียวยกแผง โดย ณ เวลา 10.24 น. ราคาหุ้นแบงก์ส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตอบรับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ไฟเขียวให้แบงก์จ่ายปันผลได้ นำโดย TMB,KKP,SCB,CIMBT,BBL,TCAP,KBANK,KTB,BAY ขณะที่ LHFG,TISCO ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง ดังตารางประกอบ

 

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ธปท.ให้สถาบันการเงินสามารถจ่ายเงินปันผลได้ โดยคำนึงถึงเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจการเงิน และผลกระทบต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยได้กำหนดแนวทางการจ่ายปันผลปี 2563

ซึ่งพิจารณาจากแผนบริหารจัดการเงินกองทุน และเงินสำรองเพียงพอรองรับในสถานการณ์เลวร้ายจากการระบาดของโควิด-19 ประกอบกับสถาบันการเงินได้เพิ่มความระมัดระวังด้วยการทยอยตั้งสำรองและสะสมเงินกองทุนเพิ่มเติมมาโดยตลอด ทำให้ระบบธนาคารพาณิชย์ มีอัตราการกันสำรองถึง 1.5 เท่าของสินเชื่อด้อยคุณภาพ และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง หรือ BIS ratio ที่ 19.8% ณ ไตรมาส 3

อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้าสถานการณ์ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ธปท. จึงเห็นควรมีมาตรการเชิงป้องกัน โดยให้สถาบันการเงินสามารถจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานของปี 2563 ได้ไม่เกินอัตราการจ่ายในปีนี้ 2562 และต้องไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิของปี 2563 สอดคล้องกับแนวทางของผู้กำกับดูแลสถาบันการเงินต่างประเทศหลายแห่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น ผู้ฝากเงิน และลูกหนี้ของสถาบันการเงินในระยะยาว

ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวจะช่วยให้ระบบสถาบันการเงินไทยเข้มแข็ง รักษาระดับเงินกองทุนให้อยู่ในระดับสูงได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ภายหลังสถานการณ์ของโรคโควิด-19 คลี่คลาย

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการซื้อหุ้นคืนของสถาบันการเงิน ธปท.ยังคงประเด็นดังกล่าวต่อไปก่อน ส่วนการจ่ายเงินปันผลปี 2564 และ 2565 จะพิจารณาเป็นปีๆไปเหมือนเดิม

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ ได้ทำตัวเลขคาดการณ์การจ่ายเงินปันผลของธนาคารแต่ละแห่ง หากธปท.ให้กลับจ่ายเงินปันผลของปี 2563 ได้ เริ่มจาก TMB คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลงวดปี 2563 ในอัตรา 0.06 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่จ่ายในอัตรา 0.04 บาทต่อหุ้น ซึ่งนับว่าเป็นธนาคารเพียงแห่งเดียวที่มีกำไรและจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นจากปีก่อน หลังจากรวมงบกับธนาคารธนชาตแล้ว

ขณะที่ BBL จะจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 6.5 บาทต่อหุ้น, KBANK  คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 4.6 บาทต่อหุ้น, SCB  คาดว่าจะจ่ายเงินปันอยู่ที่ 4.3 บาทต่อหุ้น, KTB คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 0.51 บาทต่อหุ้น, KKP คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 3.24 บาทต่อหุ้น และ BAY คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 0.55 บาทต่อหุ้น

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย มีมุมมองเป็นบวกต่อ TISCO จากอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารที่อยู่ในระดับสูงถึง 196% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ รวมถึงต้นทุนการเงินที่ลดลงได้อีก จากการดึงเงินฝากมาทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอายุ ต้นทุนถูก และเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่มีอยู่ 18% ทำให้ TISCO มีโอกาสในการจ่ายปันผลที่ระดับ 5-6 บาทต่อหุ้น

ขณะที่นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า กรณีดังกล่าว จะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยแบงก์ที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลเด่นสุด คือ TISCO และ BBL

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กลุ่มธนาคารรับข่าวดีแบงก์ชาติอนุญาตให้จ่ายปันผลได้: ปลดล็อก Overhang เงินปันผลของกลุ่มธนาคาร ทั้งนี้ธนาคารพาณิชย์จะจ่ายปันผล สำหรับรอบผลการดำเนินงานปีนี้ได้ไม่เกินอัตราที่เคยจ่ายในปี 62 และไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิ เบื้องต้นคาด KTB ให้ Dividend yield 5.1% สูงสุดของหุ้น ธนาคารขนาดใหญ่ ส่วน TISCO อาจจ่ายปันผลได้ลดลงเมื่อเทียบจากปี 62 จากเกณฑ์จ่ายปันผลได้ไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิ

 

Back to top button