ตัวแทนรายย่อย SIMAT เชิญผถห.เข้าประชุม 27 พ.ย. โหวตปลดทีมบริหารยกชุด!

ตัวแทนรายย่อย SIMAT เชิญผถห.เข้าประชุม 27 พ.ย. โหวตวาระปลดทีมบริหารยกชุด!


นายดิษศรัย ปิณฑะดิษ ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องน่าใจหายที่งบไตรมาส 3/63 กำไรลดวูบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีผลขาดทุนจากโครงการเน็ตห่างไกลโซนซี ขณะที่มีหนี้สินหมุนเวียนกว่า 1,000  ล้านบาท สัดส่วนหนี้สินต่อทุนขยับเพิ่มเป็น 2 เท่า จากก่อนหน้าอยู่ในระดับ 1 เท่า

“ไม่รู้ทีมผู้บริหารชุดปัจจุบันบริหารงานอย่างไร ทั้งๆที่ได้โปรเจคใหญ่ โครงการเน็ตโซนซี เข้ามามูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ผมอยากจะเชิญชวนผู้ถือหุ้นรายย่อยทุกท่าน เข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นตามมาตรา 100 ในวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ เพื่อเรียกร้องให้ประธานบอร์ด ออกมาชี้แจงปมปัญหาโครงการเน็ตโซนซี”

โดยในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 มีวาระสำคัญประกอบด้วย

วาระที่ 1 ขอให้ประธานกรรมการบริหารชี้แจงการบริหารจัดการบริษัทภายใต้สัญญาบริการโครงการจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) กลุ่มที่4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2

วาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติการเพิ่มเติมจำนวนกรรมการอีก 10 คน

วาระที่ 3 พิจารณาอนุมัติการแก้ไขอำนาจกรรมการ

วาระที่ 4 พิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการจาก นายธวัชชัย อรัญญิก เป็น นายสุภสิทธิ์ รักกสิกร

วาระที่ 5 พิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงบุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้

วาระที่ 6 พิจารณาอนุมัติกรอบการแก้ไขอำนาจลงนามในบัญชีธนาคาร

วาระที่ 7 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

โดยในครั้งนี้มีวาระสำคัญคือ การเสนอให้การเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการบริหาร จาก 1.นายทองคำ มานะศิลปะพันธ์ เป็นนายนรัตถ์ สาระมาน 2.รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารจาก นายธรรมนูญ ก่อเกียติวนิช เป็นนายนถรัตถ์ สาระมาน และ 3.ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน/ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงิน จากนายธรรมนูญ ก่อเกียรติวณิช เป็นนายวิเชียร ลัคนาทิน เนื่องจากคณะผู้บริหารของบริษัท บริหารจัดการบริษัทอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ไม่โปร่งใส และมีพฤติการณ์ที่แสดงเห็นว่าเอื้อประโยชน์บุคคลภายนอก โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้น อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท

อนึ่ง SIMAT เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส3/63 มีกำไรสุทธิ 4.33 ล้านบาท ลดลง 63.19 ล้านบาท หรือ 93.58% โดยในส่วนของธุรกิจโครงการภาครัฐได้แก่โครงการบริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลในโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือในงวดนี้ มีผลขาดทุน 8.37 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลขาดทุนที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่ 3 เกิดจากผลกระทบจากความล่าช้าในการส่งมอบงานระยะที่ 1 งวดที่ 3 ทําให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ยังมีมติอนุมัติให้บริษัทฯรับความช่วยเหลือจากนายทองคำ มานะศิลปพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร/รองประธานกรรมการ และเป็นผู้ถือหุ้นโดยถือหุ้น 11.92% ค้ำประกันเงินกู้ยืมที่บริษัทฯกู้ยืมจากสถาบันการเงินและบุคคลภายนอก โดยค้ำประกันส่วนตัว วงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำงานโปรเจคภาครัฐ

Back to top button