“อาคม” แย้ม “คนละครึ่ง” เฟส 2 ผู้ใช้เก่าได้สิทธิอัตโนมัติ-ช่วยบัตรคนจนเพิ่ม รอชงเข้าครม.

“อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คลัง แย้ม “คนละครึ่ง” เฟส 2 ผู้ใช้เก่าได้สิทธิอัตโนมัติ-ช่วยบัตรคนจนเพิ่ม รอชงเข้าครม.


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้จัดเตรียมรายละเอียดเพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เห็นชอบใน 2 เรื่อง ประกอบด้วย 1. การขยายเวลาโครงการคนละครึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเปิดรับลงทะเบียนเพิ่ม รวมถึงวงเงินที่จะนำมาใช้ ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีวงเงินที่เหลือจากโครงการคนละครึ่งในรอบแรก วงเงินรวม 3 หมื่นล้านบาทเท่าไร และจะต้องขอใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน วงเงิน 1 ล้านล้านบาทอีกเท่าไร และ 2. มาตรการดูแลผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่ให้อยู่ 500 บาท

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่งแล้ว 10 ล้านคน คาดว่าจะได้รับสิทธิต่อเนื่องทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เนื่องจากมีข้อมูลอยู่ในระบบทั้งหมดแล้ว โดยหลังจากนี้ จะไปหารือกับธนาคารกรุงไทย (KTB) ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ถ้าผู้รับสิทธิในรอบแรกมีการกระทำที่ขัดคุณสมบัติ ก็จะไม่ได้รับสิทธิในรอบ 2

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่า การลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 จะลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตามเดิม เพราะประชาชนได้เรียนรู้และมีความชำนาญในการลงทะเบียน รวมถึงใช้ระบบแอปพลิเคชันแล้ว แต่ยังต้องรอให้ ครม.พิจารณาก่อนว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนเฟส 2 ได้เมื่อใด คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปลายเดือน ธ.ค.63 เพื่อให้เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64

โดย สศค. จะนำเสนอให้ ครม.พิจารณาหลายทางเลือก เช่น การให้ยกเลิกวงเงินที่เหลือในโครงการรอบแรก ที่ใช้ไม่ทันในวันที่ 31 ธ.ค.63 แต่จะเป็นการจ่ายเงินรอบใหม่ให้เลย หรือจะให้นำวงเงินที่เหลือในรอบแรก ไปสมทบกับวงเงินในโครงการรอบใหม่ โดยยังต้องขอดูในภาพรวมก่อนว่าผู้ที่เข้าโครงการมีลักษณะการใช้จ่ายเงินอย่างไร

“คนที่ได้สิทธิแล้ว 10 ล้านคน ไม่ต้องกังวลว่าจะได้สิทธิในเฟส 2 หรือไม่ ซึ่งคาดว่าใครที่เคยลงทะเบียนแล้ว ก็จะได้รับสิทธิทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ หรือกดปุ่มให้ยืนยันเพื่อยืนยันการใช้สิทธิ เพียงแต่ขอให้รอรายละเอียดจาก ครม.ก่อน ว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือเท่าไร และระยะเวลาของมาตรการที่ขยายออกไปจะสิ้นสุดเมื่อใด” ผู้อำนวยการ สศค.กล่าว

Back to top button