สังคมข่าวหุ้น

*ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (22 ธ.ค. 63) ปิดที่ระดับ 1,424.39 จุด เพิ่มขึ้น 22.61 จุด (1.61%) มูลค่าการซื้อขาย 87,824.78 ล้านบาท


ย่าหยา

*ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (22 ธ.ค. 63) ปิดที่ระดับ 1,424.39 จุด เพิ่มขึ้น 22.61 จุด (1.61%) มูลค่าการซื้อขาย 87,824.78 ล้านบาท

*ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (21-25 ธ.ค. 63) ย่าหยา ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว หลังจากที่โควิด-19 ระบาดในกลุ่มคนงานต่างด้าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หุ้นไทยติดลบหนักเมื่อต้นสัปดาห์ ขณะที่วานนี้ (22 ธ.ค. 63) สถานการณ์หุ้นไทยเริ่มกลับมาดีขึ้น แต่ยังไง ย่าหยา ก็ยังไม่ไว้วางใจอยู่ดี

*ไม่รู้สถานการณ์การลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้จะออกหัว หรือ ออกก้อย แต่กูรูหุ้นไทยอย่าง บล.บัวหลวง (BLS) รีบให้เป้า SET ปี 2564 อย่างไว ที่ 1,550 จุด จากสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,430 จุด โดยมองว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดรอบใหม่มีผลกระทบระยะสั้น ขณะที่กระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ายังสนับสนุนให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งคาดว่ากำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (EPS) จะเพิ่มขึ้นเป็น 86 บาท/หุ้น จากปีนี้ 78 บาท/หุ้น ได้รับแรงหนุนจากกำไรของกลุ่มธุรกิจพลังงานและกลุ่มเดินเรือที่ดีดตัวขึ้นสูง

*ขณะที่นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ มองบวกการลงทุนในปี 2564 เช่นกัน แถมมั่นอกมั่นใจ หุ้นทั่วโลกปรับขึ้นต่อแน่ แม้ราคาจะแพงมากเมื่อเทียบกับอดีต แต่เพราะเศรษฐกิจฟื้น, เลือกตั้งสหรัฐฯ ชัดเจน, คิดค้นวัคซีน COVID สำเร็จ, นโยบายการเงินผ่อนคลาย และกำไรบจ.เริ่มเป็นบวก อย่างไรก็ตาม ยังคงแนะให้ซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้ออยู่นะ

*รายใหญ่อย่าง สุเมธ ดารกานนท์ ก็ดอดขายหุ้น บมจ.ยูเนี่ยนไพโอเนียร์ (UPF) ออก 4.7123% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ แต่งานนี้มีมือไวอย่าง นายนิติพันธุ์ ดารกานนท์ ไม่อยากเสียโอกาสทำกำไรในอนาคต เลยขอช้อน UPF เข้าพอร์ตสักหน่อย 1.3346% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

*ฝั่งบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ได้มีการลดสัดส่วนหุ้นในเหมืองลิเทียมอาร์เจนตินา-สหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนเริ่มต้นประมาณ 36 ล้านเหรียญสหรัฐ และมูลค่าที่ได้รับจากการลดสัดส่วนการลงทุนในครั้งนี้ประมาณ 136 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่วนต่างระหว่างราคาขายและต้นทุนของเงินลงทุนจากการลดสัดส่วนดังกล่าว จะรับรู้เข้ากำไรสะสมโดยตรง และไม่มีการรับรู้ผ่านงบกำไรขาดทุน

*ด้านข่าวดี บมจ.ช.การช่าง (CK) แจ้งว่า บริษัทได้ลงนามเป็นผู้รับจ้างในสัญญาจ้างงานซ่อมบำรุง และปรับปรุงโครงสร้าง และงานระบบทางพิเศษ ศรีรัช และทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร กับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ในฐานะผู้ว่าจ้าง มูลค่าสัญญาประมาณ 919,500,420 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินการ ประมาณ 12 เดือน อีกทั้งได้ลงนามเป็นผู้รับจ้างในสัญญาจ้างงานซ่อมบำรุง และปรับปรุงโครงสร้างทางพิเศษอุดรรัถยา กับ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด ในฐานะผู้ว่าจ้าง มูลค่าสัญญาประมาณ 86,300,550 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินการ ประมาณ 12 เดือนเช่นกัน

*ส่วนหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เผยปี 2564 บริษัทคาดมีรายได้เติบโต 20-30% มาจากการเติบโตจากธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่จะมีความสำคัญต่อบริษัทค่อนข้างมาก โดยคาดจะมีสัดส่วนของธุรกิจ EV เพิ่มขึ้นเป็น 20-30% จากปีนี้มีรายได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และไม่มีโครงการใหม่ออกมา

*ทิ้งท้ายด้วยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BBL แจ้งว่า ล่าสุด ได้รวมสาขาแบงก์กรุงเทพในประเทศอินโดนีเซียเข้ากับเครือข่ายสาขาของธนาคารเพอร์มาตาแล้ว ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจการเงินของอินโดนีเซีย Otoritas Jasa Keuangan หรือ OJK  มีผลตั้งแต่ 21 ธ.ค. 63 เป็นไปตามแผน หลังจากธนาคารกรุงเทพเข้าซื้อกิจการธนาคารเพอร์มาตาเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤษภาคม 2563 และเข้าถือหุ้น 98.71% หลังดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดของเพอร์มาตาเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 63

*ล่าสุด ครม.เคาะ ภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดี (นักบริหารสูง) กรมบัญชีกลาง ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ (นักบริหารสูง) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ไปดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมบัญชีกลาง และ ปานทิพย์ ศรีพิมล รองปลัดกระทรวง (นักบริหารสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ (นักบริหารสูง) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ

Back to top button