ย่อแล้ว..ต้องเก็บ

*จริง ๆ “โมนิก้า” เป็นเพียงสาวแรกแย้ม “เอวบาง ร่างน้อย” พูดจาไพเราะเสนาะหู แต่ทำไมผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นมากมายถึงมองเดี๊ยนเป็นพวกปากไว รู้เรื่องอะไรปุ๊บ มาเล่าให้ฟังปั๊บ ก็เพราะต้องการให้สังคมชาวหุ้นได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นมันมีหลากหลายแง่มุม ซึ่งไม่จำเป็นต้องเชื่อในสิ่งที่เล่าให้ฟังเสมอไป จึงขอทำความเข้าใจกับผู้คนที่ตกเป็นขี้ปากให้น้องโมขุดรากเหง้ามาแฉอีกครั้งนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*จริง ๆ “โมนิก้า” เป็นเพียงสาวแรกแย้ม “เอวบาง ร่างน้อย” พูดจาไพเราะเสนาะหู แต่ทำไมผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นมากมายถึงมองเดี๊ยนเป็นพวกปากไว รู้เรื่องอะไรปุ๊บ มาเล่าให้ฟังปั๊บ ก็เพราะต้องการให้สังคมชาวหุ้นได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นมันมีหลากหลายแง่มุม ซึ่งไม่จำเป็นต้องเชื่อในสิ่งที่เล่าให้ฟังเสมอไป จึงขอทำความเข้าใจกับผู้คนที่ตกเป็นขี้ปากให้น้องโมขุดรากเหง้ามาแฉอีกครั้งนะคะ

*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงอยากฝากบอกพวกตัวจี๊ดในตลาดหุ้นว่า อย่าทำอะไรที่มันเยอะเกินไป เพราะถ้าเยอะกันนักละก็ คงต้องเจออะไรหนัก ๆ เป็นธรรมดา ส่วนคนที่ตั้งใจทำธุรกิจจริง ๆ และมีแผนงานที่ชัดเจน เดี๊ยนก็สนับสนุนอย่างเต็มที่อยู่แล้ว วันนี้ถึงไม่ต้องมาตีหน้าเศร้า พร้อมกับบีบน้ำตา เพื่อเรียกร้องความเห็นใจ เพราะถ้า “คิดดี ทำดี” สังคมเขาก็เห็นเองแหละ

*เหมือนกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยก่อนวันแดงเดือด “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักเล่นหลายรายพอรู้ข้อมูลคร่าว ๆ มาระยะหนึ่งว่า หุ้นไทยมักขึ้นแรงเป็นช่วง ๆ ต่อจากนั้นมักลงแรงเป็นประจำ และการที่หุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,513.78 จุด บวกไป 21.42 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.21 แสนล้านบาท จึงกลายเป็นการเซตเกมหุ้นรอบใหม่ หลังจากมีการเปลี่ยนฐานแนวรับขึ้นมายืนที่ระดับ 1,500 จุดแล้วนะซี

*สิ่งที่ต้องคิดต่อมาก็คือ เมื่อดัชนีผ่านกระบวนการพักตัวเป็นที่เรียบร้อย ก็เปิดโอกาสให้พวกขาประจำเริ่มเก็บหุ้นรอบใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการปกติที่เห็นได้เป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจด ๆ จ้อง ๆ หุ้นเป้าหมายตั้งแต่หัววัน เพราะสิ่งที่เห็นในเที่ยวนี้มันเป็นเรื่องเบสิกที่นักเล่นต้องรู้ ไม่จำเป็นต้องให้เดี๊ยนมานั่งย้ำจนปากเปียกปากแฉะหรอกจ้า !

*เหมือนกับในรายของ KBANK พอทะยานขึ้นมาปิดเกือบสูงสุดของวันที่ระดับ 122.50 บาท บวกไป 6 บาท หรือขึ้นไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.56 พันล้านบาท และกำลังจะทำนิวไฮในรอบ 10 เดือน  “โมนิก้า” ย่อมมีความหวังที่จะได้เห็นหุ้นไต่ระดับขึ้นไปยืนแถว 130 บาท ซึ่งเป็นช็อตต่อเนื่องที่บรรดานักเล่นต้องอ่านให้ขาด และต้องกำหนดโพสิชั่นของตัวเองให้ชัดเจนว่า หากไปต่อ..ต้องตาม หากไปไม่ไหว..ต้องถอย ก็เท่านั้นเอง !

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้พานให้นึกถึงหุ้นสุดเลิฟ SAWAD เมื่อไม่สามารถฝ่ากระแสขึ้นไปปิดเหนือ 70 บาท ก็ต้องโดนขายอย่างหนักเป็นธรรมดา จนวานนี้เริ่มมีการไล่หุ้นอย่างดุดันตลอดทั้งวันอีกรอบ ส่งผลให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 69.25 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.74 พันล้านบาท น้องโมมองเป็นเรื่องของเกมหุ้นที่กำลังเซตใหม่ จึงเป็นจังหวะของการไหลตามเท่านั้นเองจ้า !

*ส่วนหุ้นน้องใหม่เมื่อปลายปีvย่าง SCGP ถือเป็นตัวเร้าอารมณ์นักเล่นได้เป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่า หุ้นเพิ่งเริ่มขึ้นอย่างจริงจัง  “โมนิก้า” ถึงมีความเชื่อส่วนตัวว่า หุ้นจะไปต่อได้เรื่อย ๆ เพราะได้รอบที่กองทุนจะเข้ามาไล่ราคา วันนี้ถึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการลงทุน หากหุ้นไปต่อแบบสวย ๆ น่าจะทำให้รอบเล่นยาวขึ้นอย่างแน่นอน หลังหุ้นขึ้นมาปิดที่  43.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.70 พันล้านบาทนะซี

*อีกหนึ่งตัวที่มีอาการคล้ายกัน “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น JR  เพราะต้องเผชิญกับการทดสอบแรงขายตลอดทั้งวัน ทำให้ราคาหุ้นทรุดตัวลงไปถึง 7.50 บาท แต่สุดท้ายก็ตีตื้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 7.75 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.65%  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 74 ล้านบาท โดยที่หุ้นยังติดแคชบาลานซ์แบบนี้..เดี๊ยนขอเรียนตามตรงว่า โอกาสที่หุ้นจะไปต่อมีมากเหลือเกิน เพราะแรงซื้อเที่ยวนี้เป็นเงินสดล้วน ๆ ไม่มีมาร์จิ้นนะตัวเอง

*เช่นเดียวกับอาการของ AIE กระชากขึ้นมาปิดที่ 0.87 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 83  ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ปกติของหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากราคาปาล์มขึ้นต่อเนื่อง บวกกับที่ผ่านมาก็เคาะกันเบา ๆ ไม่โฉ่งฉ่าง วันนี้กลับแสดงกำลังภายในด้วยการเคาะขวารัว ๆ เดี๊ยนถึงมองเป็นจังหวะที่ต้องตามกระแสแบบไม่ต้องอิดออด เพราะเคยเห็นบทวิเคราะห์บางแห่งให้เป้าเบื้องต้นที่ระดับ 1.06 บาทนะซี

Back to top button