Coca-Cola กับเทรนด์ตลาดสีเขียว

จากผลิตภัณฑ์ที่ถูกตราหน้าว่า..เป็นบ่อเกิดขยะพลาสติกทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้ Coca-Cola บริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของโลกได้รับการเสนอชื่อ ให้เป็น “ผู้ก่อมลพิษจากพลาสติกอันดับหนึ่งของโลก” จากบริษัท Break Free From Plastic ด้วยจำนวนขยะพลาสติกจากแบรนด์ Coca-Cola มากกว่า 13,000 ชิ้นใน 51 ประเทศทั่วโลก


เมกะเทรนด์ : สุภชัย ปกป้อง

จากผลิตภัณฑ์ที่ถูกตราหน้าว่า..เป็นบ่อเกิดขยะพลาสติกทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้ Coca-Cola บริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของโลกได้รับการเสนอชื่อ ให้เป็น “ผู้ก่อมลพิษจากพลาสติกอันดับหนึ่งของโลก” จากบริษัท Break Free From Plastic ด้วยจำนวนขยะพลาสติกจากแบรนด์ Coca-Cola มากกว่า 13,000 ชิ้นใน 51 ประเทศทั่วโลก

ทำให้ Coca-Cola เปิดตัวแคมเปญที่ชื่อว่า World Without Waste ช่วงปี 2018 ด้วยการสนับสนุนแผนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ที่มาจากการรีไซเคิล 100% และเป็นผู้นำพฤติกรรมการรีไซเคิลทั่วโลก ด้วยการช่วยเก็บและรีไซเคิลขวดหรือภาชนะที่ขายโดยแบรนด์ Coca-Cola พร้อมลงทุนพัฒนาบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล 100% และลดปริมาณพลาสติกในขวดเพื่อผลิตภาชนะพลาสติกที่ผสมวัตถุรีไซเคิล 50% ภายในปี 2030

ในสหราชอาณาจักร Coca-Cola ให้การสนับสนุนกิจกรรมรีไซเคิลขยะและลงทุนสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการรีไซเคิลแบบไฮเทค ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน Clean Tech ที่ Lincolnshire และเป็นพันธมิตรองค์กรต่าง ๆ อาทิ WWF, Ocean Conservancy, Keep Britain Tidy และ Ellen MacArthur Foundation เป็นต้น

ล่าสุด Coca-Cola เปิดตัวขวดขนาดใหม่เป็นครั้งแรกรอบกว่า 10 ปีในสหรัฐอเมริกา สิ่งที่โดดเด่นมากสุดคือขวดทำมาจากวัสดุพลาสติกรีไซเคิล 100% นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเชิงกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน โดยขวดใหม่นี้มีขนาด 13.2 ออนซ์ มุ่งหวังว่าจะดึงดูดให้หยิบมาจิบมากขึ้น เพราะขวดนี้ใหญ่กว่าขวดแบบกระป๋องอะลูมิเนียมเล็กน้อย แต่เล็กกว่าขวด 20 ออนซ์ทั่วไป

กลุ่มเป้าหมายของ Coca-Cola ขนาดใหม่อยู่ที่กลุ่มคนอายุน้อยกว่า 25 ปี เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยขวด Coca-Cola รีไซเคิลใหม่ช่วยลดการใช้พลาสติกใหม่กว่า 20%

กำหนดเริ่มวางจำหน่ายช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ รวมถึงนิวยอร์ก, คอนเนตทิคัต, แคลิฟอร์เนีย และฟลอริดา จากนั้นเปิดตัวทั่วประเทศช่วงฤดูร้อนนี้เบื้องต้นวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ยอดนิยมคือ Coca-Cola, Diet Coke และ Coke Zero Sugar ราคาขายปลีกที่ 1.59 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 48 บาท)

Alpa Sutaria ผู้จัดการทั่วไปด้านความยั่งยืน Coca-Cola ระบุว่าการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ใหม่ถือเป็นงานแห่งความรักและนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ โดยบรรจุภัณฑ์ใหม่นี้สามารถนำไปทำความสะอาด ก่อนนำไปบดให้ละเอียด จนกลายเป็นเกล็ดคล้ายเมล็ดพืช ก่อนเปลี่ยนเป็นขวดใหม่อีกครั้ง

นี่ถือเป็นหนึ่งในหลายแบรนด์สินค้าชั้นนำระดับโลกที่ถูกตราหน้าจาก “องค์กรรณรงค์อิสระระดับโลก ที่ลงมือทำเพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรม ปกป้องสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมสันติภาพ (Greenpeace) กดดันให้กลุ่มบริษัทต่าง ๆ ลดปริมาณพลาสติกที่ผลิตนับตั้งแต่ปี 2017

ผลสำเร็จของ Coca-Cola ครั้งนี้ ถือเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ทั่วโลก สำหรับบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม จึงเป็นเมกะเทรนด์ที่น่าสนใจเลยทีเดียว…!?

Back to top button