TM วิ่งต่อ 6% หลังติดทำเนียบ “หุ้นยั่งยืน” กลุ่ม ESG Emerging ปี 64

TM วิ่งต่อ 6% หลังติดทำเนียบ "หุ้นยั่งยืน" กลุ่ม ESG Emerging ปี 64 สะท้อนการเติบโตด้านผลประกอบการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM ณ เวลา 10.13 น. อยู่ที่ระดับ 4.14 บาท บวก 0.22 บาท หรือ 5.61% สูงสุดที่ระดับ 4.16 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.02 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33.40 ล้านบาท

ด้านนางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TM ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกติดในทำเนียบ “บริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน” หรือ ESG Emerging List ที่มีการพิจารณาคัดเลือกหลักทรัพย์ที่น่าลงทุน โดยสถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจในประเทศไทย และเป็นผู้จัดทำข้อมูลกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100

ล่าสุด TM ติด1ใน 24 หลักทรัพย์จดทะเบียนที่น่าลงทุนในกลุ่ม ESG Emerging ปี 2564 ด้วยการคัดเลือกจาก 824 บริษัท / กองทุน / ทรัสต์เพื่อการลงทุน โดยใช้ข้อมูลที่เกี่ยวกับ ESG Rating สถาบันไทยพัฒน์ จำนวนกว่า 15,260 จุดข้อมูล ภายใต้หลักเกณฑ์การพิจารณาจะคัดเลือกจากหลักทรัพย์ที่มีการดำเนินงานโดดเด่น หรือกระบวนการทำงานทางธุรกิจให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพิ่มเติมจากเดิมในรอบปีการประเมิน รวมถึงความริเริ่มด้าน ESG หรือที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน ซึ่งสร้างผลกระทบทางตรงต่อการเติบโตของรายได้

โดยการที่ TM ได้รับคัดเลือกในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำให้เห็นความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และยึดหลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการภายในองค์กรที่ดี โดยบริษัทฯพร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคู่ค้า ลูกค้า ด้วยมาตรฐาน ระดับสากล จนสะท้อนถึงผลประกอบการทางการเงินที่ดี ภายใต้สถานการณ์โควิด พร้อมยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้

ทั้งนี้จากประเด็นดังกล่าว ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นหุ้นคงทน (Durable Stocks) ที่จะก้าวสู่การสร้างผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งเป็นประโยชน์แก่นักลงทุนที่กำลังมองหาบริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ตามเกณฑ์ ESG Rating

นอกจากนี้ บริษัทฯได้มีการปรับกลยุทธ์โครงสร้างธุรกิจ เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำการจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ที่ยกระดับมุ่งสู่การพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ที่ให้บริการผู้สูงอายุแบบบูรณาการครบวงจร โดยเพิ่มไลน์ธุรกิจสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทาง ซึ่งเป็นการดำเนินการผ่านบริษัทย่อยคือ บริษัท ทีเอ็ม เนิร์สซิ่ง แคร์ จำกัด (TMNC)

โดย TM ถือหุ้นสัดส่วน 80% และอีก 20% เป็นกลุ่มแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุ โดยศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทางดังกล่าว คาดจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดดำเนินการในเชิงพาณิชย์ได้ ประมาณช่วงปลายปี 2566 ส่งผลให้บริษัทฯทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจนี้เข้ามาเฉลี่ย 100 -150 ล้านต่อปี โดยรายได้ดังกล่าวเข้ามาชัดเจนตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตด้านผลประกอบการของบริษัทฯเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้การสร้างมูลค่าเพิ่มในส่วนของรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

Back to top button