MFC ชูทริกเกอร์ฟันด์ “M-GOT2” ลงทุนช่วงภาวะเงินเฟ้อ จองซื้อไอพีโอ 9-15 มี.ค.นี้

MFC กลับมาอีกครั้งกับทริกเกอร์ฟันด์ ออกกองทุน เอ็มเอฟซี โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ ทริกเกอร์ ซีรี่ส์ 2 หรือ M-GOT2 เพื่อคว้าโอกาสลงทุนจากสภาวะเงินเฟ้อ เปิดจองซื้อหน่วยลงทุน (IPO) ระหว่างวันที่ 9 – 15 มี.ค. 65


นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC เปิดเผยว่าปัจจัยทางภาพรวมของสภาวะเศรษฐกิจที่สนับสนุนให้กองนี้น่าลงทุนในช่วงนี้ เพื่อคว้าโอกาสการลงทุนจากสภาวะเงินเฟ้อ ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่อง ความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทานหลังการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ข้อจํากัดด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ที่ยืดเยื้อ ราคาพลังงานที่สูงขึ้น

ขณะเดียวกันยังมีประเด็นภูมิรัฐศาสตร์รัสเซีย-ยูเครน ซึ่งจะหนุนให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้นและทรงตัวในระดับสูงในปีนี้ ในแง่ของการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) จึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนในกลุ่มหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งก็คือ กลุ่มพลังงาน กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Staples) ที่สามารถส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังผู้บริโภคได้ และกลุ่มอุตสาหกรรมโลหะอย่างทองแดงหรือเหล็ก (Materials) อีกทั้ง จากการศึกษาช่วงเวลาที่เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นในอดีตตั้งแต่ปี 1926 พบว่ากลุ่มหุ้นทั้งสามมีอัตราผลตอบแทนที่ดีและความความสัมพันธ์เชิงบวกกับอัตราเงินเฟ้อมากที่สุด (ที่มา: FMRCo, NBER, Haver Monthly data since 1926, Fidelity Investments, as of November 3, 2021)

สำหรับ “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ ทริกเกอร์ ซีรี่ส์ 2” หรือ “M-GOT2” เป็นกองทุนรวมผสมที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภท Trigger Fund ที่มีความยืดหยุ่น โดยมีธีมการลงทุนใน 3 กลุ่มหลัก ที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากเงินเฟ้อ คือ

1.) Energy หรือ กลุ่มธุรกิจด้านพลังงานที่เกี่ยวข้องกับ oil & exploration ที่มีแนวโน้มเติบโตจากสภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น เช่น ExxonMobil, Chevron และ Schlumberger

2.) Consumer Staples หรือสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตที่จะได้รับประโยชน์จากสภาวะเงินเฟ้อ เช่น P&G, Coca-Cola และ Walmart และ

3.) Selective Materials หรือกลุ่มอุตสาหกรรมโลหะอย่างทองแดงหรือเหล็กที่ได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและขยายตัว เช่น Sumitomo Metal & Mining, Teck Resources และ Rio Tinto เป็นต้น

โดย M-GOT2 มีเงื่อนไขรับซื้อคืนอัตโนมัติ 2 ครั้งใน 6 เดือนแรกคือ ในช่วงอายุโครงการ 6 เดือนแรก นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวมครั้งที่ 1 เมื่อกองทุนมี NAV ตั้งแต่ 10.30 บาท ขึ้นไป และกองทุนมีเงินสดเพียงพอที่จะชำระค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ บริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนภายใน 5 วันทำการ ไม่ต่ำกว่าหน่วยลงทุนละ 0.30 บาท และครั้งที่ 2 เมื่อกองทุนมี NAV ตั้งแต่ 10.75 บาทขึ้นไป และมูลค่าหน่วยลงทุนที่จะทำการรับซื้อคืนอัตโนมัติต้องไม่ต่ำกว่า 10.70 บาท/หน่วย

ขณะที่ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรก นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหรือ สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนออกจากกองทุนนี้และหากครบกำหนดระยะเวลา 6 เดือน กองทุนไม่ได้ผลตอบแทนตามที่กำหนด กองทุนจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ

ทั้งนี้ “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ ทริกเกอร์ ซีรี่ส์ 2” หรือ “M-GOT2” มีความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ระดับ 5 ด้วยเงินทุนโครงการ 2,000 ล้านบาท ไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล พร้อมเปิดให้จองซื้อหน่วยลงทุน (IPO) ระหว่างวันที่ 9 – 15 มีนาคม 2565

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง หรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) มูลค่าหน่วยลงทุนเป้าหมายไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุน กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน อาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานของกองทุนหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 สาขาแจ้งวัฒนะ โทร.0-2835-3055-57 สาขาปิ่นเกล้า โทร. 0-2014-3150-2 สาขาขอนแก่น โทร.043-204-014-16 สาขาเชียงใหม่ โทร. 0-5321-8480-82 สาขาระยอง โทร. 033-100-340 สาขาหาดใหญ่ โทร. 074-232-324 – 25 หรือที่ www.mfcfund.com

Back to top button