บลจ.ทิสโก้ เปิดกองทุนESG เพื่อสังคมเพื่อการกระตุ้นภาคธุรกิจหนุนการลงทุน

บลจ.ทิสโก้ เปิดกองทุน ESG เพื่อสังคม เพื่อการกระตุ้นภาคธุรกิจหนุนการลงทุน


นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทิสโก้ จำกัด หรือ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า  บลจ.ทิสโก้ เปิดตัว “กองทุนเปิด ทิสโก้ ESG เพื่อสังคม” (TISCO ESG Investment Fund for Society: TISESG-S) เพื่อสนับสนุนให้มีการช่วยสังคมอย่างต่อเนื่องเป็นลักษณะการนำผลตอบแทนจากการลงทุนไปทำกิจกรรม CSR เพื่อคืนประโยชน์สู่สังคม โดยมองว่าบริษัทที่อยู่ภายใต้กรอบของ ESG นั้นนอกจากจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่เติบโตได้ดีในระยะยาวแล้ว ยังมีความผันผวนหรือมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าตลาดโดยรวม

ทั้งนี้ บลจ. ทิสโก้ ได้คัดเลือกบริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นด้าน ESG (Environmental Social and Governance : สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) จาก Universe ของ ESG100 มาไว้ในพอร์ตการลงทุน ซึ่งปัจจุบัน กองทุนดังกล่าวมีขนาดประมาณ 40 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนอย่างน้อยระยะ 3 ปี ซึ่งเชื่อว่าทางนักลงทุน บริษัทจดทะเบียนและนักลงทุนสถาบันจะให้ความสนใจและตอบรับเป็นอย่างดี  เพราะ ESG ค่อนข้างที่จะมีผลการดำเนินงานที่เติบโตได้ดีในระยะยาว รวมถึงยังมองว่าช่วยลดมีความผันผวนหรือมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าตลาดโดยรวม

เรื่องหลักการลงทุนนั้น บลจ.จะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีราคาไม่สูงมากนัก และเน้นบริษัทที่มีพื้นฐานที่ดีมีมาตรฐาน รวมถึงเหมาะกับสถานการณ์ในสภาวะตลาดนั้น ๆ ซึ่งเราได้คัดเลือกเพื่อลงทุนเหลือ 20-25 บริษัท จากจำนวนเต็มที่ 80-90 บริษัท และเมื่อราคาหุ้นที่ถืออยู่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงระดับที่เหมาะสม เราก็อาจจะมีการขายเพื่อที่จะเปลี่ยนเข้าลงทุนในบริษัทใหม่ โดยดูตามความเหมาะสม”นายธีรนาถ กล่าว

โดยปัจจุบันนักลงทุนหันมาให้ความสนใจในบริษัทที่มีการใช้ ESG เป็นตัวนำในการดำเนินธุรกิจ เป็นสิ่งที่ช่วยสามารถควบคุมความเสี่ยงด้านต่างๆ ได้ และปัจจุบันแนวโน้มของการลงทุนหันมามีมุมมองด้าน ESG มากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนหันมาสนใจลงทุน แม้ P/E จะอยู่ในระดับสูง แต่การลงทุนในรูปแบบนี้เป็นการลงทุนที่ดีสะท้อนให้เห็นผ่านผลการดำเนินงานของกองทุนที่ให้ผลตอบแทนกว่า 14% ซึ่งมากกว่าผลตอบแทนของตลาดรวมที่ระดับ 7%

สำหรับมุมมองต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ถือว่ายังน่าสนใจ แม้ในช่วงที่ผ่านมาดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับเพิ่มขึ้นเข้าใกล้เป้าหมายที่ 1,580 จุด โดยมองว่าน่าจะยังมีแรงซื้อกลับจากนักลงทุนในที่ช่วงดัชนีฯ อาจจะปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรบางส่วน อย่างไรก็ตาม แนะนำหลีกเลี่ยงการเข้าลงทุนหุ้นที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจนสูงเกินไป เพราะอาจจะมีแรงขายออกมา ขณะที่แนะนำเลือกลงทุนในกองทุนหุ้นขนาดกลางที่มีการเติบโตสูง หรือ กองทุนหุ้นปันผล เป็นต้น

Back to top button