GBS ชี้หุ้นไทยส่อลงต่อ กังวลเฟดเร่งขึ้นดบ. – Fund Flow ไหลออก

GBS ชี้หุ้นไทยส่อลงต่อเนื่อง หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย และแบงก์ชาติจีนส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยตาม ส่งผล Fund Flow เริ่มไหลออก


นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวลงต่อ จากปัจจัยต่างประเทศเป็นตัวกดดันดัชนีทั้งการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งส่งผลให้เม็ดเงิน Fund Flow เริ่มไหลออก และคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ 1 ปี

ส่วนสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 9,284 ราย ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจระบาดรอบ 3 และผลการวิจัยครั้งใหม่จากประเทศอังกฤษพบว่า การติดเชื้อโควิด-19 อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายของเนื้อเยื่อสมองในระยะยาว ส่วนธนาคารกลางอินเดียได้ ได้เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดรอบที่สองของโรคโควิด-19 อาจส่งผลให้ผลผลิตทางเศรษฐกิจของอินเดียได้รับความเสียหายสูงถึง 2.711 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2564 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับย่อตัวลงกดดันตลาด จึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ในกรอบ 1,580-1,630 จุด

ทั้งนี้ ยังคงต้องจับตาปัจจัยดังกล่าวเหล่านี้ อาทิ การรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนพฤษภาคมของประเทศสหรัฐ อเมริกา การเปิดเผยรายงานการประชุมของ BOJ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ครั้งที่ 4/2564 สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนพฤษภาคม สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย อียูและสหรัฐเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการขั้นต้นเดือนมิถุนายน และ สหรัฐรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพฤษภาคม ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุน

โดยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการประกาศอย่างเป็นทางการผ่อนคลายเปิดและขยายเวลากิจการและกิจกรรม 8 ประเภทในพื้นที่กรุงเทพฯ เปิดห้องสมุด และสระว่ายน้ำ ส่วนร้านอาหารนั่งได้ถึง 23.00 น. ส่วนร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ให้เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนเป็นต้นไป โดยหุ้นที่คาดการณ์ว่าจะได้อานิสงส์จากมาตรการดังกล่าวคือหุ้นกลุ่มร้านอาหารและค้าปลีก ได้แก่ AU, M, ZEN และ CPALL

ส่วนของทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท หลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่าจากความผันผวนของราคาทองคำฝ่ายวิจัยประมาณกรอบทองคำในสัปดาห์นี้ 1,730-1,780 $/Oz โดยแนะนำให้รอซื้อเมื่ออ่อนตัวกลับมาที่แนวรับ 1,750$/Oz เนื่องจากราคาปรับตัวลงมากกว่า 5% ในสัปดาห์ก่อน โดยราคาทองคำยังถูกกดดันจากการที่เฟดเตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ยังคงเป็นปัจจัยกดดันในระยะกลาง

Back to top button