STECH ปลื้ม! ขายไอพีโอเกลี้ยง 200 ล้านหุ้น ปักหมุดเทรด 23 ก.ค.นี้

STECH กระแสแรง! ขายไอพีโอ 203,500,000 หุ้นเกลี้ยง ในราคาหุ้นละ 2.78 บาท สะท้อนความเชื่อมั่นของธุรกิจด้วยยอดจองซื้อเกินจำนวนจัดสรร และพร้อมเข้าเทรดใน SET 23 ก.ค.นี้


นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมสายงานวาณิชธนกิจ – ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า การจองซื้อหุ้น IPO ของ บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ STECH จำนวน 203,500,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 2.78 บาท ระหว่างวันที่ 13 – 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อเข้ามาเกินกว่าจำนวนที่จัดสรรสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของธุรกิจและแผนการเติบโตที่ชัดเจน โดยเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 23 ก.ค. 2564 ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้าง

ด้านนายคมกฤต มีคำสัตย์ กรรมการผู้จัดการสายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า STECH ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยมในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นหุ้นพื้นฐานดีมีโอกาสเติบโตระยะยาวตามแผนการลงทุนในงานโครงสร้างพื้นฐานและงานสาธารณูปโภคของประเทศ จุดเด่นด้วยชื่อเสียงและประสบการณ์ของผู้บริหารกว่า 35 ปี มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันบริษัทมีโรงงาน 9 แห่ง กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทั้งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

โดยสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่จะมีการลงทุนและเม็ดเงินที่จะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงต่อจากนี้ ซึ่งเป็นโอกาสให้ STECH ได้รับงานต่อเนื่องโดยโครงการที่เป็นโอกาส ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย  เชียงราย – เชียงของ, โครงการรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่ – มหาสารคาม – ร้อยเอ็ด – มุกดาหาร – นครพนม, โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา – หนองคาย และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เป็นต้น

ขณะเดียวกันนางสาวจิรยง อนุมานราชธน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า STECH มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและผลประกอบการอยู่ในระดับที่น่าสนใจจากกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการขยายการเติบโตแบบ Growth Stock พร้อมนโยบายการจ่ายปันผลที่ดีในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ 

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ฝีมือการบริหารจัดการ ด้วยกำไรสุทธิในปี 2563 อยู่ที่ 140.60 ล้านบาท เติบโตจากปี 2562 มากกว่า 50% และปีนี้มั่นใจงานโครงการในมือกระจายอยู่หลายภูมิภาค ซึ่งโรงงานยังเดินหน้าผลิตและเตรียมส่งมอบตามแผนสนับสนุนเป้าหมายการเติบโตของบริษัทฯให้เป็นไปตามที่วางไว้ อีกทั้งในสิ้นปีนี้บริษัทฯจะมีโรงงานเพิ่มเป็น 10 แห่ง และในปี 2567 จะมี 11 แห่ง รองรับความต้องการของลูกค้าในงานโปรเจกต์ภาครัฐที่จะทยอยเดินหน้าลงทุนตามแผน

สำหรับนายวัฒน์ชัย มงคลศรีสวัสดิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STECH เปิดเผยว่า เป้าหมายการเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจคอนกรีตอัดแรง และเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 550 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ขยายธุรกิจเสาคอนกรีตอัดแรง ประมาณ 298 ล้านบาท ตามโครงการที่วางไว้ 

นอกจากนี้ ใช้สำหรับโครงการพัฒนาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต 10 ล้านบาท และใช้ชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นประเภทตั๋วสัญญาใช้เงินจากสถาบันการเงิน 220 ล้านบาท รวมทั้งนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ 22 ล้านบาท 

“ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ทำให้การเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดย STECH ถือเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจคอนกรีตอัดแรงรายใหญ่ของประเทศ ที่จะเข้ามาสร้างการเติบโต และสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับนักลงทุน” นายวัฒน์ชัย กล่าว

Back to top button