สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ก.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ก.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และโคคา-โคล่า นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 9 เดือนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,798.00 จุด เพิ่มขึ้น 286.01 จุด หรือ +0.83% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,358.69 จุด เพิ่มขึ้น 35.63 จุด หรือ +0.82% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,631.95 จุด เพิ่มขึ้น 133.08 จุด หรือ +0.92%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) โดยหุ้นบลูชิพปรับตัวขึ้นขานรับการเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใส และหุ้นกลุ่มเดินทางดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 453.97 จุด เพิ่มขึ้น 7.36 จุด หรือ +1.65%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,464.48 จุด เพิ่มขึ้น 117.63 จุด หรือ +1.85%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,422.50 จุด เพิ่มขึ้น 206.23 จุด หรือ +1.36% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,998.28 จุด เพิ่มขึ้น 117.15 จุด หรือ +1.70%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 5 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของบรรดาบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,998.28 จุด เพิ่มขึ้น 117.15 จุด หรือ +1.70%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิงในรัฐโอกลาโฮมาของสหรัฐ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นปรับตัวลงเช่นกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.1 ดอลลาร์ หรือ 4.60% ปิดที่ 70.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.88 ดอลลาร์ หรือ 4.20% ปิดที่ 72.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตายังคงกระตุ้นให้นักลงทุนส่วนหนึ่งเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,803.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 25.255 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 10.10 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ 1,075.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 14.50 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 2,654.90 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหันไปถือครองสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ยูโรและปอนด์ หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.22% แตะที่ 92.7613 เมื่อคืนนี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1799 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1782 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3715 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3626 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7357 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7330 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.27 เยน จากระดับ 109.82 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9172 ฟรังก์ จากระดับ 0.9211 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2558 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2694 ดอลลาร์แคนาดา

 

 

Back to top button