“ฟินันเซีย” แนะชะลอลงทุน SPVI หั่นเป้าเหลือ 5.60 บ. มองกำไรปีนี้แตะ 102 ลบ.

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI โดยล่าสุดปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 5.60 บาท จาก 6.20 บาท พร้อมแนะนำ “ขาย” เนื่องจากกลยุทธ์ของบริษัทในระยะยาวที่เน้นเจาะตลาดกลุ่มนักศึกษา รวมถึงธุรกิจค้า ปลีกในภาพรวมที่ขายสินค้าเกาะกระแส 5G และ Work From Home ทำให้แนวโน้มการเติบโตในระยะ 2-3 ปี ยังคงดี แต่ในระยะสั้น นอกจากผลกระทบจากมาตรการล็อคดาวน์แล้ว ไตรมาส 2/64 ยังเป็น Low Season ของบริษัทอีกด้วย

ทั้งนี้ คาดกำไรปกติเติบโตทบต้นเฉลี่ย CAGR ( 2564-67) 20.1% อ้างอิง 2-Year PE ของกลุ่มธุรกิจ สินค้า IT ที่ 22 เท่า จะได้ราคาเป้าหมายที่ 5.60 บาท (PE ปี 64 22 เท่า, PEG ปี 64 1.1 เท่า) แนะนำนักลงทุนชะลอการลงทุนจนถึงปลายไตรมาส 3/64 เพื่อรอดูสถานการณ์ COVID-19 รวมถึงรอสินค้า Apple เปิดตัวใหม่ในช่วงกลาง ก.ย. และเนื่องด้วยราคาตลาดปัจจุบัน สูงกว่าราคาเป้าหมายที่เราให้ จึงคงคำแนะนำ “ขาย”

อย่างไรก็ตาม คาดกำไรทั้งปี 2564 อยู่ที่ 102 ล้านบาท +39.6% จากปีก่อน หนุนโดยเทรนด์ 5G, Work From Home, และ Learn From Home โดยเน้นขยายตลาดในกลุ่มนักศึกษาผ่านร้าน U-Store และ A-Store ซึ่งมีสาขา ณ ปลายไตรมาส 1/64 ทั้งหมด 20 สาขา และ 4 สาขา ตามลำดับ บริษัทคงกลยุทธ์ระยะยาวในการเจาะตลาดการศึกษา ตั้งเป้าเร่งขยาย ร้านค้าเพิ่มอีก 9 สาขา ในปีนี้แบ่งเป็น U-Store 6 สาขา และ A-Store 3 สาขา ถือ เป็นการยึดชัยภูมิที่ดีก่อนคู่แข่งจะเข้ามา

โดยที่ผ่านมา ร้าน U-Store ถือเป็นตัว ขับเคลื่อนหลักที่บรรเทาผลกระทบเชิงลบจากเหตุการณ์ล็อคดาวน์ในปี 2563 ทำให้กำไรปกติทั้งปี 2563 มีการเติบโตติดลบเพียง 3.2% จากปีก่อน มาตรการล็อคดาวน์ล่าสุด 13 จังหวัด และอาจขยายไปเป็นการล็อคดาวน์ทั้งประเทศ เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อไตรมาส 2/63 ในเบื้องต้นคาดว่ามาตรการล็อคดาวน์ครั้งนี้จะถูกขยายไปจนถึงต้นไตรมาส 4/64 ทำให้ปรับประมาณการกำไรทั้งปี 2564 ลง 8.9% เป็น 102 ล้านบาท 39.6% จากปีก่อน จากเดิมที่คาดไว้ 112 ล้านบาท 52.8% จากปีก่อน โดยเป็นการปรับรายได้ปี 2564 ลง 5.4% แต่คงอัตรากำไรขั้นต้นไว้คงเดิม