สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ก.ย. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ก.ย. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป หลังตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,312.53 จุด ลดลง 48.20 จุด หรือ -0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,524.09 จุด เพิ่มขึ้น 1.41 จุด หรือ +0.03% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,309.38 จุด เพิ่มขึ้น 50.15 จุด หรือ +0.33%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศแถบเอเชีย และนักลงทุนไม่ได้วิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในยูโรโซน นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 473.12 จุด เพิ่มขึ้น 2.24 จุด หรือ +0.48%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,758.69 จุด เพิ่มขึ้น 78.51 จุด หรือ +1.18% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,149.84 จุด เพิ่มขึ้น 30.14 จุด หรือ +0.42% ส่วนดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,824.29 จุด ลดลง 10.80 จุด หรือ -0.07%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเดินทางและกลุ่มค้าปลีก และยังได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของอังกฤษยังคงขยายตัวในเดือนส.ค. แม้ในอัตราต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,149.84 จุด เพิ่มขึ้น 30.14 จุด หรือ +0.42%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในการประชุมเมื่อวานนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.10% ปิดที่ 68.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.10% ปิดที่ 71.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) โดยสัญญาทองคำปรับตัวในกรอบแคบตลอดทั้งวัน เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.10 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,816 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 21.50 เซนต์ หรือ 0.90% ปิดที่ 24.221 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 14.50 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 999.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 29.50 ดอลลาร์ หรือ 1.20% ปิดที่ 2,441.50 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) หลังตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ในเดือนส.ค. ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.20% แตะที่ 92.4530 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.92 เยน จากระดับ 110.00 เยน แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9151 ฟรังก์ จากระดับ 0.9149 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2615 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2607 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1845 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1812 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3779 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3757ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7374 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7318 ดอลลาร์

Back to top button