MICRO มั่นใจพอร์ตสินเชื่อปีนี้โตเข้าเป้า 30% มุ่งขยายสาขาเพิ่ม

MICRO มั่นใจพอร์ตสินเชื่อปีนี้โตตามเป้า 30% ชี้โควิดไม่กระทบดีมานด์สินเชื่อรถบรรทุก หลังภาคการส่งออกและธุรกิจด้านโลจิสติกส์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง กางแผนขยายสาขาเพิ่ม หวังเข้าถึงลูกค้าครอบคลุม


นายกานต์ดนัย ชลสุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการด้านบัญชีและการเงิน บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าปีนี้พอร์ตสินเชื่อจะเติบโตได้ 30% ตามเป้าที่ตั้งไว้ หรือราว 4,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 5,000 ล้านบาทในปี 2565 หลังช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้เพิ่มมาที่ 3,134 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ไม่ได้มีผลกระทบต่อดีมานด์สินเชื่อรถบรรทุก เห็นได้จากภาคการส่งออกและธุรกิจด้านโลจิสติกส์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดีในปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยาย 4 สาขา ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาในพื้นที่ สมุทรปราการ, ปทุมธานี, แพร่ และ ปราจีนบุรี ส่งผลให้ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 16 สาขา แต่เนื่องจากยังคงเห็นการเติบโตของสินเชื่อรถบรรทุกอีกมาก ประกอบกับต้องการดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึง บริษัทจึงวางแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 2 สาขาในไตรมาส 4/2564 ในทำเล จังหวัดแพร่, ภาคตะวันออก หรือ ภาคอีสาน สำหรับในปี 2565 วางแผนขยายเพิ่มอีก 4 สาขาเช่นกัน

สำหรับการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ สิ้นสุดไตรมาส 2/2564 ยังอยู่ที่ระดับ 3.74% ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าจะให้อยู่ที่ราว 3% โดยบริษัทมีการควบคุมและคัดกรองสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ มีการจ้าง Outsource และเพิ่มทีมติดตามมาช่วยควบคุมเรื่อง NPL ได้ดียิ่งขึ้น และยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เช่น มีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้และพักชำระหนี้อีกด้วย

นอกจากนี้บริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ๆเพื่อสร้างรายได้เข้ามา โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 ได้มีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิต เพื่อสนับสนุนแผนกลยุทธ์หลักของบริษัทในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกมือสองให้ครบวงจร และเป็นรากฐานที่ก่อให้เกิดพลังผนึกระหว่างบริษัทและนำไปสู่ระบบนิเวศธุรกิจที่สมบูรณ์ในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4/2564

“แม้จะเผชิญการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ภาคการส่งออกยังเป็นสิ่งที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์ยังไปต่อได้อยู่ ดีมานด์สินเชื่อรถบรรทุกจึงเติบโตต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งปีหลังแม้เดือน ก.ค. – ส.ค.จะเผชิญปัญหาฤดูฝนซึ่งอาจจะทำให้คนไม่นิยมออกรถในช่วงนี้ แต่หลังเดือนก.ย.ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต และประเทศไทยยังเดินหน้าฉีดวัคซีน พร้อมรับการเปิดประเทศ จึงคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีสถานการณ์ที่ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก” นายกานต์ดนัย กล่าว

 

 

 

Back to top button