โบรกชี้! SPA เริ่มฟื้นไตรมาส 4 อานิสงส์เปิดเมือง เล็งปี 65 กำไรแตะ 92 ลบ.

โบรกฯ มอง SPA รายได้-กำไรไตรมาส 4/64 ฟื้นตัว หลังไตรมาส 3/64 เชื่อผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ขณะเดียวกันมีการปรับกำไรปี 2565 อยู่ที่ 92 ล้านบาท ส่วนรายได้อยู่ที่ 837 ล้านบาท พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 8.80 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ต.ค.2564) เกี่ยวข้องกับ บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA  โดยประเมินว่าไตรมาส 3 ปี 2564 คาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดจากผลกระทบโควิด-19 ไปแล้ว ทั้งนี้คาดผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2564 ยังขาดทุนสุทธิ 93 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนมากขึ้นจากไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ขาดทุนสุทธิ 87 ล้านบาท และไตรมาส 3 ปี 2563 ที่ขาดทุนสุทธิ 55 ล้านบาท

ขณะที่มีการคาดว่ารายได้จะหดตัวลงเหลือเพียง 12 ล้านบาท ลดลง 84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน และลดลง 348% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เหตุจากการระบาดของโควิดระลอกใหม่ที่ทำให้รัฐบาลสั่งปิดร้านนวด และสปา เป็นเวลาทั้งหมด 83 วันในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 อยู่ในช่วงระหว่างวันที่ (10 ก.ค. – 30 ก.ย.2564) โดยมีเพียงสาขาในภูเก็ตที่สามารถเปิดได้จากโครงการ Phuket Sandbox และ Baan Suan ที่สามารถเปิดได้ในจังหวัดหนองคายและอุดรธานี

อย่างไรก็ตามคาดว่าในไตรมาส 4 ปี 2564 เริ่มเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการเนื่องจากจะมีการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เนื่องจากทางรัฐบาลได้มีการแถลงการณ์เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมาว่าจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวจาก 10 ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุน utilization rate ขึ้นมาได้ราว 40 – 50% เพราะในปัจจุบันหลังคลาย lockdown บริษัทมี utilization rate อยู่ที่ประมาณ 30% โดยผู้ใช้บริการยังมีแต่ชาวไทยและพนักงานนวดยังกลับมาเพียงบางส่วนเท่านั้น

โดยถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวจีนจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ไทยจะเปิดรับเข้ามา แต่ทางประเทศจีนนั้นยังมีมาตรการควบคุมประชากรที่จะเข้าออกประเทศไปจนถึงปลายปี 2565 จึงอาจทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนยังฟื้นตัวได้ช้า หากเปรียบเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด ทาง SPA มีสัดส่วนรายได้จากชาวจีนราว 55%

สำหรับโอกาสในการทำ M&A และการขยายสาขา บริษัทยังไม่ได้มีแผนที่จะทำ M&A ในปีนี้ แต่เริ่มมีการเจรจากับโรงแรมต่างๆ เนื่องจากร้านนวด ร้านสปาเล็กๆ ได้ปิดสาขาไปค่อนข้างมาก ทำให้บริษัทมีโอกาศที่จะขยายสาขาใหม่ได้ในอนาคตเมื่อเริ่มเปิดประเทศและธุรกิจฟื้นตัว

ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาจำนวน 3 – 4 สาขาในปี 2565 หลังเลื่อนเปิดจากปี 2564 เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยสาขาใหม่นี้จะตั้งอยู่ในจังหวัดกรุงเทพฯ ทั้งในโรงแรมและ community mall

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 310 ล้านบาท แม้ว่ามองผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 3 ปี 2564 ขณะที่คาดว่าการเปิดประเทศจะทำให้ผลประกอบการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2564 อย่างค่อยเป็นค่อยไป

นอกจากนี้มีการปรับกำไรปี 2565 เพิ่มขึ้น 17% ทำให้กำไรอยู่ที่ 92 ล้านบาท และปรับรายได้เพิ่มขึ้น 7% ทำให้อยู่ที่ 837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 397% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นหลังรัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนและ เตรียมเปิ ดประเทศตามแผน ซึ่งแม้จะเริ่มเปิดให้เพียง 10 ประเทศในเดือน พ.ย. 2564 แต่ทางฝ่ายวิจัยเชื่อว่ารัฐฯ จะทยอยเพิ่มรายชื่อประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ธ.ค. และหลังปีใหม่เป็นต้นไป

โดยได้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 8.80 บาท ได้มีการปรับปีฐานไปเป็นปี 2565 และราคาเป้าหมายคิดเป็นปี 2567 ค่า PER ที่ 36.5 เท่า เนื่องจากคาดว่าบริษัทจะเริ่มพลิกกลับมาเป็นกำไรในปี 2565 แต่จะฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียงกำไรในปี 2562

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Back to top button