HANA วิ่ง 4% รับเทรนด์ “EV Cars” หนุน! โบรกชี้เป้า 85 บ.  

HANA วิ่ง 4% รับเทรนด์ EV Cars หนุน พ่วงคาดการณ์ผลประกอบการจาก PMS จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โบรกฯแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 85 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (1 พ.ย.2564) ราคาหุ้นบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ณ เวลา 11:13น. อยู่ที่ระดับ 83.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 4.38% โดยทำจุดสูงสุดที่ 84.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 81.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 737.23 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ HANA ว่ายังคงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 85.00 บาท อิง PER 24 เท่า หลังจากบริษัทเผยความคืบหน้าของบริษัทย่อย Power Master Semiconductors (PMS) ในประเทศ เกาหลีใต้สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ Silicon Carbide (SiC) ที่ได้รับผลตอบรับดีจากลูกค้าโดยผ่านเกณฑ์ 100% ในการตรวจสอบคุณภาพ โดยสินค้ามีจุดเด่นในด้าน Power Conversion สำหรับ Cloud Computing, EV และ Industrial Application นอกจากนี้ PMS ยังได้เซ็นสัญญากับบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศเกาหลีใต้

อย่างไรก็ดีแม้ว่าบริษัทได้ลงทุนสำหรับการผลิต SiC ไปแล้วกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทยังได้มองถึง ดีมานด์ที่แข็งแกร่งจากทั้งลูกค้ากลุ่มประเทศจีนและเกาหลีจึงได้มีแผนลงทุนเพิ่มกว่า 60 – 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 2,000 – 2,160 ล้านบาท) โดยจะใช้เงินทุนจากเงินสดสำรองของ บริษัทสำหรับเครื่องจักรในการผลิต Mass Production ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2565 เพื่อที่จะรองรับการเติบโตของเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV Cars) ในอนาคต

ทั้งนี้บริษัทคาดการณ์ผลประกอบการจาก PMS จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเริ่มรับรู้รายได้ส่วนของ SiC ในปี 2565 โดยประมาณการรายได้จาก PMS อยู่ที่ 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเติบโตต่อเนื่อง ถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ ในช่วงต้น บริษัทอาจรับรู้การขาดทุน และจะสามารถ Break Even ได้ในปี 2568 โดยจะมีรายได้สูงถึง 132 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 นอกจากนี้ Gross Profit Margin (GPM) ของผลิตภัณฑ์ใหม่ SiC ยัง สูงถึง 20% – 30% ซึ่งมากกว่าผลิตภัณฑ์เดิมของบริษัทที่ 10% – 16%

ดังนั้นทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อ ผลิตภัณฑ์ใหม่ Sic จาก (1) ช่วยหนุนรายได้และผลประกอบการของบริษัทอย่างมีนัยยะสำคัญ และ (2) Gross Profit Margin (GPM) ของ SiC ที่อยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์เดิมทำให้ช่วยหนุนกำไรบริษัทให้สูงขึ้น

 

Back to top button