สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 พ.ย. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 พ.ย. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮที่เหนือระดับ 36,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮเช่นกัน ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทไฟเซอร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,052.63 จุด เพิ่มขึ้น 138.79 จุด หรือ +0.39% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,630.65 จุด เพิ่มขึ้น 16.98 จุด หรือ +0.37% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,649.60 จุด เพิ่มขึ้น 53.69 จุด หรือ +0.34%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่ปรับตัวขึ้น แต่การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ถ่วงตลาด ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่479.53 จุด เพิ่มขึ้น 0.66 จุด หรือ +0.14%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,927.03 จุด เพิ่มขึ้น 33.74 จุด หรือ +0.49%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,954.45 จุด เพิ่มขึ้น 148.16 จุด หรือ +0.94% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,274.81 จุด ลดลง 13.81 จุด หรือ -0.19%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ร่วงลงตามราคาสินแร่เหล็ก และการร่วงลงของหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด หลังคาดการณ์รายได้ทั้งปีทรงตัวนั้น ถ่วงตลาดลงด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,274.81 จุด ลดลง 13.81 จุด หรือ -0.19%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้ รวมทั้งผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันพฤหัสบดีที่ 4 พ.ย.นี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 83.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 84.72 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.4 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่  1,789.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 56.6 เซนต์ หรือ 2.35% ปิดที่ 23.507 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 28 ดอลลาร์ หรือ 2.62% ปิดที่ 1,039.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 44.90 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 2,007.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 94.0899 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9142 ฟรังก์ จากระดับ 0.9092 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2405 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2370 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.96 เยน จากระดับ 113.98 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1581 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1605 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3618 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3657 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7426 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7518 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button