SNC ส่งซิกผลงาน Q4 โตเด่นรับ “ไฮซีซั่น” หนุนรายได้ปีนี้พุ่งกว่า 50%

SNC ส่งซิกรายได้ปีนี้โตกว่า 50% จากเป้าเดิมที่คาดโต 25% หลังรายได้รวม 9 เดือนเติบโตได้ถึง 50% เกินกว่าเป้า มองผลงานไตรมาส 4 โดดเด่น รับไฮซีซั่นหนุนยอดสั่งซื้อทะลักตามการเติบโตของอุตสาหกรรม เล็งขยายการผลิตในส่วน OEM หวังรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น


นายสมชาย งามกิจเจริญลาภ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNC เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตมากกว่า 50% จากเป้าเดิมที่คาดโต 25% เนื่องจากรายได้รวม 9 เดือนแรกเติบโตได้ถึง 50% เกินกว่าเป้าแล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ มีรายได้แตะ 10,746 ล้านบาท โดยได้ปัจจัยหนุนมาจากกลุ่มงาน OEM ที่มีสัดส่วนมากถึง 69% ซึ่งมีคำสั่งซื้อกลุ่มชิ้นส่วนโทรทัศน์เพิ่มขึ้น และการปรับราคาขายผลิตภัณฑ์กลุ่ม Toolbox รวมถึงค่าเงินบาทในไตรมาส 3/64 อ่อนค่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าไตรมาส 3/2564 และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าเป็นช่วงของโลซีซั่น แต่ในไตรมาสนี้จะเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ หรือไฮซีซั่น ทำให้ปกติคำสั่งซื้อจะเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น โทรทัศน์ และรถยนต์ เป็นต้น

สำหรับโดยภาพรวมอุตสาหกรรมที่บริษัทฯ มีส่วนเกี่ยวข้องในปีนี้ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ คาดว่าจะเติบโตกว่า 10% หรือมาอยู่ที่ 23.10 ล้านเครื่อง เมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ที่ 21 ล้านเครื่อง ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาทำได้แล้ว 19 ล้านเครื่อง จากตลาดส่งออกเป็นหลัก, อุตสาหกรรมรถยนต์ ปีนี้คาดยอดการผลิตจะเติบโตมาที่ 1.70 ล้านคัน จากปีก่อนอยู่ที่ 1.40 ล้านคัน โดย 9 เดือนที่ผ่านมาทำได้แล้ว 1.21 ล้านคันสูงกว่าทั้งปีก่อนไปแล้ว, อุตสาหกรรมเครื่องซักผ้าปีนี้คาดเติบโตได้ 9.40% มาอยู่ที่ 7 ล้านตู้ จากปีก่อนทำได้ 6.40 ล้านตู้ และอุตสาหกรรมการผลิตตู้เย็น คาดปีนี้เติบโต 8.60% มาที่ 8.80 ล้านตู้ จากปีก่อน 8.10 ล้านตู้

นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนจะขยายการผลิตในส่วนของ OEM เพิ่มขึ้น ทั้งอาคารโรงงาน คลังสินค้า และสายการผลิต เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า กำลังการผลิตของเครื่องปรับอากาศจะเพิ่มเป็น 3 ล้านเครื่อง จากปัจจุบันอยู่ที่ 2 ล้านเครื่อง ซึ่งบริษัทฯ มีอัตราการผลิตอยู่ที่ 80% ของกำลังผลิตแล้ว และในปีถัดไปก็มีแผนเพิ่มสายการผลิตเป็น 4 ล้านเครื่อง ส่วนของโทรทัศน์ก็จะมีการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาด้วยเช่นกัน จาก 3 แสนเครื่องในปีนี้ เป็น 3.50 แสนเครื่องในปีหน้า โดยให้สอดคล้องกับดีมานด์ลูกค้า รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตตู้เย็น จาก 1 แสนตู้ เป็น 2 แสนตู้ในปีหน้า อีกทั้งก็มองโอกาสในการขยายไลน์การผลิตไปสู่เครื่องซักผ้าด้วยในอนาคต คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปี 2565

ทั้งนี้เป้าหมายการดำเนินงานในปี 2565 ปัจจุบันบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการวางแผนธุรกิจ โดยเบื้องต้นคาดว่าผลการดำเนินงานก็จะเติบโตกว่าปีนี้ แต่ในเชิงเปอร์เซ็นต์อาจจะชะลอลง ประกอบกับจะมีการใช้เงินลงทุนลดลงเมื่อเทียบกับปีนี้ หรือวางไว้ราว 500 ล้านบาท เพื่อขยายสายการผลิตอีกบางส่วน เนื่องจากในปีนี้บริษัทฯ ใช้เงินไปค่อนข้างมากแล้วในส่วนของการลงทุนที่สำคัญ

 

Back to top button