“ฟินันเซีย” แนะซื้อ SAPPE เป้า 37 บ. หลังกำไร Q3 โตเกินคาด หนุนทั้งปีพุ่งแตะ 438 ลบ.

“ฟินันเซีย” เชียร์ซื้อ SAPPE เป้า 37 บ. หลังโชว์กำไร Q3 โต 11.9% แตะ 142 ลบ. หนุนกำไรทั้งปีโตแตะ 438 ลบ. ลุ้นปี 65 โตต่อรับแผนออกผลิตภัณฑ์กัญชง


บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (12 พ.ย.64) เกี่ยวกับหุ้น บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE หลังรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2564 เท่ากับ 142 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวม FX Loss 3 ล้านบาท จะมีกำไรปกติเท่ากับ 145 ล้านบาท เพิ่ม 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเพิ่ม 10.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนดีกว่าคาด 9% และเป็นกำไรสูงสุดใหม่

อย่างไรก็ดีแม้รายได้ในประเทศจะถูกกระทบจาก COVID ทำให้ ลดลง 31.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนแต่ด้วยสินค้าใหม่จึงช่วยพยุงให้โตเพิ่ม 3.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าได้ และสิ่งที่ดีอย่างน่าประทับใจคือ การเติบโตของรายได้ส่งออก เพิ่ม 17.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเพิ่ม 47.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและเป็นการเติบโตในทุกประเทศทั้งอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สหรัฐ ยุโรป เกาหลีใต้ และตะวันออกกลาง ท่ามกลางวิกฤติปัญหาขาดแคลนเรือตู้คอนเทนเนอร์

นอกจากนี้บริษัทได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการสายเรือให้กับลูกค้าได้อย่างดี และด้วยมาร์จิ้นที่ดีของรายได้ส่งออก ช่วยหักล้างผลลบของต้นทุนเม็ดพลาสติก PET ที่ปรับขึ้นแรงได้ทั้งหมด ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเร่งตัวขึ้นเป็น 40.5% ทำจุดสูงสุดในรอบ 17 ไตรมาส แม้ค่าใช้จ่ายจะปรับขึ้นแรง จากต้นทุนค่าระวางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทสามารถผลักให้กับลูกค้าได้ทั้งหมด ถูกหักล้างกับรายได้อื่นที่ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้บริษัททาจุดสูงสุดใหม่ได้ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ

ด้านบริษัทมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 2564  เท่ากับ 356 ล้านบาท เพิ่ม19.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นสัดส่วน 81% ของประมาณการทั้งปี แนวโน้มกำไร ไตรมาส 4 ปี 2564 จะอ่อนตัวลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเพราะเป็น Low Season ของธุรกิจ

ขณะที่ต้นทุนเม็ดพลาสติกยังทรงตัวใกล้เคียงไตรมาส3ปี25563 และคาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัวใน ไตรมาสแรกของปี2565 ตามฤดูกาล คาดหวังรายได้ในประเทศจะกลับมาโตหลัง COVID คลี่คลายและยังมีแผนออกสินค้าใหม่มากขึ้น รวมถึงน่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์กัญชงจากบริษัทอย่างเร็วใน ครึ่งปีแรกของปี 2565

ดังนั้นยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-2565 ไว้ตามเดิมที่ 438 ล้านบาท เพิ่ม 15.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและ 496 ล้านบาท เพิ่ม 13.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ ยังคงราคาเป้าหมายที่ 37 บาท (อิง PE เดิม 23 เท่า)

 

 

Back to top button